สมุนไพร รากสามสิบ

สาวร้อยผัว สมุนไพรที่ใกล้ถูกลืม สรรพคุณ ช่วยในการกระชับช่องคลอด ลดตกขาว ปวดประจำเดือน แลปัญหาระบบภายในช่องคลอด แก้อาการวัยทอง บำรุงน้ำนม ประจำเดือนมาไม่ปกติชลอความแก่ แก้ช่องคลอดอักเสบ บำรุงผิวพรรณ

สมุนไพร กระชายดำแท้

กระชายดำเป็นสมุนไพรในกลุ่มร้อน มีรสขม เผ็ดร้อน สรรพคุณสำหรับผู้ชาย ช่วยบำรุงฮอร์โมนเพศชาย กระตุ้นประสาท ทำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ สรรพคุณสำหรับ ช่วยบำรุงเลือดสตรี แก้ตกขาว ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ สตรี

สมุนไพร ตรีผลา

ตรีผลา ลดน้ําหนัก ช่วยควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดน้ำหนักและมวลไขมันออกจากร่างกาย ช่วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้มีอายุยืนยาว

สมุนไพร กวาวเครือขาว

ประโยชน์ของกวาวเครือขาวช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง เปล่งปลั่งสดใสนุ่มนวลเรียบเนียน เป็นสมุนไพรอายุวัฒนะ มีส่วนช่วยในการชะลอวัย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และลดเลือนริ้วรอยบริเวณผิวหน้าและผิวกาย

วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สมุนไพร รีแพร์ ฮ๊๋ยุ่ม รากสามสิบ เพื่อความสุขผู้หญิง

#หญ้ารีแพร์ สมุนไพร รักษาโรค

 

                                  หญ้ารีแพร์

        


เมื่อไม่นานมานี้เคยสังเกตุบริเวณสวนหน้าบ้านเหมือนกันว่า หญ้าขึ้นรกมาก จึงต้องถึงเวลาตัดหญ้าซะบ้างแล้ว ตัดไปตัดมาก็เกือบเตียนหมดแล้ว ปรากฎได้ยินเสียงร้องมาแต่ไกล อ้าว!เสียงแม่ร้อง ร้องบอกให้เราหยุดตัดหญ้าเดี๋ยวนี้ ก็ปิดเครื่องทันที ถามไถ่ไปมาได้ความว่า มีต้นหญ้าชนิดหนึ่ง ลักณะใบคล้ายๆใบไผ่ลายใบมีลักษณะเป็นลายริ้วตรงๆ ลำต้นคล้ายหญ้าขนอ่อน แต่ไม่เป็นข้อปล้อง ใบค่อนข้างเยอะ สีออกเขียวสด ไม่เข้ม บางก็ลักษณะคล้ายสีตองนวล ไม่ต้นจะค่อนข้างสูง สูงคล้ายหญ้าขนอ่อน เจ้าต้นที่พรรณนามาซะยาวนี่หละที่แม่ร้องเสียงหลงว่า ห้ามตัดเด็ดขาด เพราะมันคือ หญ้ารีแพร์

 

#หญ้ารีแพร์ ใบคล้ายใบไผ่ ก็เพราะเป็นพืชในตระกูลไผ่ อันที่จริงปลูกง่ายมากๆ สามารถขยายพันธุ์หญ้ารีแพร์ได้ด้วยวิธีการแตกหน่อ หรือ เพาะเมล็ด แต่ถ้าใครโชคร้ายไปเจอหญ้ารีแพร์ต้นตัวผู้แล้วหละก็ จะไม่สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดได้ เพราะหญ้ารีแพร์ตัวผู้ไม่มีเมล์ด ต้องเป็นหญ้ารีแพร์ตัวเมียเท่านั้น ดังนั้นวิธีการขยายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมและง่ายก็คือวิธีการขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ ทั้งต้นตัวผู้และต้นตัวเมีย

 

เจ้าพืชสมุนไพรตัวนี้โด่งดังมาถึงขนาดว่า เพาะขายกันไม่ทัน หรือแม้กระทั่งมีโจรขโมยหญ้ารีแพร์กันเลยทีเดียว และที่ยิ่งไปกว่านั้นมีการขายหญ้ารีแพร์ปลอมด้วย ดังนั้นหากสาวๆท่านใดต้องการมีหญ้ารีแพร์ไว้ในครอบครองก็ต้องสนใจคุณลักษณะเด่นเฉพาะตัวที่สามารถแสดงอัตลักษณ์ หรือ ความเป็นตัวตนของหญ้ารีแพร์ได้ ลักษณะของหญ้ารีแพร์ก็ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จดจำก่อนซื้อหามาครอบครอง

 

สรรพคุณของหญ้ารีแพร์ รากสามสิบที่เราควรรู้ อาทิ

หญ้ารีแพร์ ฮี้ยุม

 

ช่วยทำให้ช่องคลอดกระชับ โดยเฉพาะคุณแม่ทั้งหลายที่ผ่านการมีบุตรมาแล้ว

 

เป็นพืชสมุนไพรอีกตัวหนึ่งที่เหมาะแก่การนำไปอบ อาบ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ผิวพรรณ คุณสาวๆจะเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล ทำให้บาดแผลหายเร็ว ที่สำคัญทำให้มดลูกเข้าอู่ได้ด้วย

 

ในหญ้ารีแพร์มีสารสำคัญคือ ซิลิกา โดยสารชนิดนี้เป็นแหล่งกำเนิดของคอลลาเจน ทำให้เราดูเด็กไม่แก่ก่อนวัย

 

หญ้ารีแพร์สามารถนำมาทานได้ คือ เด็ดยอดไปลวกจิ้มน้ำพริก หรือ นำใบไปคั้นทำน้ำดื่มได้ ก็จะช่วยในการขับปัสสาวะ รวมทั้งยังช่วยให้ #ผิวชุ่มชื้น ดูเปล่งปลั่ง

 

สำหรับคุณสมบัติที่ทำให้หญ้ารีแพร์ รากสามสิบโด่งดังถึงขนาดต้องขโมยกันขาย ก็คือ #ช่วยกระชับช่องคลอด #ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ แต่ในการนำมาใช้ก็ต้องรู้จักวิธีใช้ให้ถูกต้องด้วย โดยสามารถทำได้ทั้งการอบไอน้ำ และ การรมควัน

 


การอบไอน้ำ เราก็ใช้หญ้ารีแพร์ นำไปต้มรวมกันกับสมุนไพรตัวอื่นๆ โดยหากจะเน้นคุณสมบัติของหญ้ารีแพร์ก็ให้เลือกผสมหญ้ารีแพร์ในสัดส่วนที่มากหน่อย โดยก่อนที่จะอบไอน้ำ ควรอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่นก่อนแล้วจึงอบตัวด้วยสมุนไพรต่อ แต่ควรรักษาอุณหภูมิในการอบไม่ให้ร้อนจนเกินไป จนกระทั่งหายใจไม่ออกเพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ซึ่งวิธีการนี้ก็จะช่วยให้ #ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูเต่งตึงมีน้ำมีนวล ไม่แห้งกร้าน อีกทั้งยังทำให้มดลูกเข้าอู่อีกด้วย

 


การรมควัน วิธีการนี้เป็นวิธีการที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ รุ่นย่าแล้ว โดยให้เรานำหญ้ารีแพร์ที่มีอายุ 45 วันขึ้นไปมาตากแดดก่อน แต่ไม่ได้ตากให้แห้งแค่พอให้รู้ว่า หญ้ารีแพร์ผ่านการตากแดดมาแล้ว จากนั้นให้ตั้งเตาถ่าน โดยถ่านหรือไม่ที่ใช้ต้องไม่ติดไฟ โดยจะต้องมีแต่ควันเท่านั้น แล้วให้นำไปวางไว้ใต้เก้าอี้ที่เจาะรู้ตรงกลางเพื่อให้ควันพุ่งขึ้นมาโดยตรง คุณผู้หญิงพร้อมแล้วก็นั่งไปที่เก้าอี้เจาะรู้ไปเลย ซึ่งจะเป็นการรมควันเฉพาะจุด โดยความร้อนที่ออกมาจากเตาในการเผาหญ้าจะต้องไม่ร้อนเกินไปเพราะอาจเป็นอันตรายได้ อีกทั้งในการรมควันเราจะต้องไปสูดดมควันเข้าไปโดยตรงเพราะจะส่งผลอันตรายต่อตัวเองได้ โดยในการรมควันควรใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที วิธีนี้จะช่วยให้ช่องคลอดกระชับได้เร็วขึ้น จะช่วยลดอาการอักเสบของแผล #ช่วยลดบวม #ช่วยสมานแผลให้เร็วขึ้น และควรทำอย่างน้อย 2-5 ครั้ง ก็จะเห็นผลเร็วทันตา หรือถ้าไม่อยากยุ่งยากสมัยนี้ร้านสปาต่างๆก็มีหญ้ารีแพร์ที่เป็นส่วนหนึ่งในการอบตัวหรือทำสปาแล้ว สาวๆหลังคลอดที่ต้องการอยู่ไฟก็สามารถใช้หญ้าชนิดนี้ได้ โดยร้านสปาก็จะสามารถจัดให้ได้

 

โดยแพทย์แผนไทยได้ออกมาแจ้งแล้วว่าหญ้ารีแพร์ไม่ได้มีอันตรายใดๆต่อร่างกาย แต่สิ่งที่จะเป็นอันตรายซึ่งก็มีข่าวมาแล้วก็คือ หญิงสาวอยากสวย ตายขณะที่อบตัวด้วยสมุนไพร สาเหตุคือ ขาดอากาศหายใจ ถ้าอยากสวยแต่ไม่ได้ชีวิตกลับไปแบบนี้ก็ไม่คุ้มกันเลย

 

และด้วยคุณสมบัติในการสมานบาดแผล การลดบวม อักเสบของหญ้ารีแพร์นั้น ก็อาจเป็นแนวทางในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากหญ้ารีแพร์เมื่อให้สาวๆสามารถนำหญ้ารีแพร์ไปใช้ได้อย่างสะดวกมากขึ้นได้ โดยไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของครีม ของเครื่องดื่มสมุนไพร หรือน้ำมันทาตัวนวดตัวในธุรกิจสปาได้laughing

 

#รากสามสิบหรือสาวร้อยผัว #สมุนไพรรีแพร์ #กระชับภายในสตรี

รากสามสิบ

 

 

"สาวร้อยผัว" เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีการศึกษวิจัยกันมากพอสมควร ในด้านการศึกษาวิจัยในห้องทดลองพบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา คือ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา คลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ แก้การอักเสบ แก้ปวด มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยับยั้งเบาหวาน เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ ลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันโลหิตสูง ขับน้ำนม ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ยับยั้งพิษต่อตับ

 


ในตำราอายุรเวทใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงในผู้หญิง ในการทำให้ผู้หญิงกลับมาเป็นสาว นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาอื่นๆ ของผู้หญิงเช่น ภาวะประจำเดือนไม่ปกติ ปวดประจำเดือน ภาวะมีบุตรยาก ตกขาว ภาวะอารมณ์ทางเพศเสื่อมถอย ภาวะหมดประจำเดือน ( menopause )

 

#รากสามสิบ หรือ #ศตวารี ถือเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้หญิงช่วยในการสร้างสมดุล แก่ระบบฮอร์โมนเพศหญิง

 

ศตวารีเป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติหลัก สำหรับบำรุงโลหิตสตรี และฟื้นฟูความกระชับของช่องคลอด บำรุงมดลูก ไข่ และเตรียมอวัยวะเพศหญิงให้มีความพร้อมต่อการตั้งครรภ์ ป้องกันการแท้งลูก อีกทั้งยังช่วยบำรุงน้ำนม
ประโยชน์ของ ศตวารี มีมากมายเพราะประกอบด้วย ไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนในผู้หญิง มีความสำคัญเพื่อคงความสาวสำหรับผู้หญิง ในทางเภสัชมีการแนะนำว่าพืชที่ให้ เอสโตรเจน มีผลดีกว่าการใช้ตัวยาปรับสมดุลฮอร์โมน เนื่องจากไม่มีผลข้างเคียงในทางลบ
สำหรับผู้ชาย เป็นยาชูกำลังเช่นเดียวกับโสมเนื่องจาก รากสามสิบ เป็นสมุนไพรธรรมชาติที่มี สรรพคุณบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย ชะลอความชรา

 


ชาวฮินดูเรียกสมุนไพรชนิดนี้ว่า "ราชินีแห่งสมุนไพร" เนื่องจากช่วยส่งเสริมความรัก และ กระชับความสัมพันธ์ให้ชีวิตคู่

 

** ปัจจุบันมีสารสกัด ด้วยน้ำของรากสามสิบ จากอินเดีย ไปจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ในลักษณะเป็น Dietary supplement กล่าวคือ สามารถขายได้ทั่วไปอย่างอิสระไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์


เหตุผลที่ สาวๆนิยมใช้ และใช้อย่างต่อเนื่อง

 


** ช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้แฟนไม่เบื่อ แทบไม่รุ้เลยว่าเราเคยมาก่อนรึเปล่า เหมือนเป็นครั้งแรกของเรา
**ช่วยฆ่าเชื้อโรคในช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดสะอาด ไม่เป็นกังวลเรื่อง กลิ่นอับ อีกต่อไป
**เป็นสมุนไพรธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมี ไม่ตกค้าง ไม่ส่งผลเสียในระยะยาว
**ราคาไม่แพง เพราะเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกได้ในประเทศไทย ภูมิปัญญาไทยๆ ไม่เสียค่านำเข้าใดๆ

 

และเพื่อให้ง่าย และสะดวกในการบริโภคสมุนไพร แต่ยังคงไว้ซึ่งสรรพคุณหลักในสมุนไพร จึงทำเป็นแคปซูลซึ่งนำเฉพาะส่วนที่เป็นราก ซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณค่า และสรรพคุณทางยามากที่สุด มาผ่านกระบวนการอบ บด และอัดใส่แคปซูล

 

 

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : หญ้ารีแพร์ ฮี้ยุม

ขอบคุณบทความจาก : http://www.thaiherbweb.com/product/206430/รากสามสิบหรือสาวร้อยผัว.html

รากปลาไหลเผือกแท้100% บำรุงกำลังสมุนไพรเพื่อบุรุษเพศ Thaiherbweb

 ปลาไหลเผือก

 

ปลาไหลเผือก หรือปลาไหลเผือกใหญ่ ชื่อวิทยาศาสตร์: Eurycoma longifolia เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ Simaroubaceae ชื่ออื่นๆ กรุงบาดาล (สุราษฎร์ธานี) คะนาง ชะนาง (ตราด) ตรึงบาดาล (ปัตตานี) ตุงสอ แฮพันชั้น (ภาคเหนือ) เพียก (ภาคใต้) หยิกบ่อถองหรือหยิกไม่ถึง เอียนด่อน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ไหลเผือก (ตรัง)เป็นไม้ไม่ผลัดใบ รากกลมโต สีขาว สีขาวนวล รากที่มีอายุหลายปีจะมีความยาวมาก อาจยาวมากกว่า 2 เมตร ลำต้นเรียบสีน้ำตาลเทา ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว ดอกช่อออกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีเขียวอมน้ำตาล ปลายกลีบแดงอมเขียว กลีบดอกสีแดงอ่อนเกสรตัวผู้และตัวเมียสีแดงอ่อน ยื่นยาวกว่าดอก ผลเดี่ยว ทรงกระบอกกลมสั้น ผลแก่แล้วแตก ผลอ่อนสีเขียว แก่แล้วเป็นสีส้ม

#ปลาไหลเผือกใหญ่ เป็นพืชที่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร ใช้ รากถ่ายพิษต่างๆ ถ่ายพิษไข้พิษเสมหะ และโลหิต แก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย ตัดไข้ทุกชนิด แก้ลม แก้วัณโรคระยะบวม ขับเหงื่อ ขับพยาธิ แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ #ความดันเลือดสูง อัมพาต ขับถ่ายน้ำเหลือง แก้ท้องผูก ใช้รากเป็นส่วนผสมของยาบำรุงกำลัง นำรากผสมกับรากโลดทะนงแดง และพญาไฟ ฝนน้ำดื่ม แก้ไข้ ใช้เลิกเหล้า รากผสมกับรากย่านางแดง และพญายา ฝนน้ำกินขับพิษ ในตำรายาโบราณ เป็นส่วนผสมของยาสามราก ที่ใช้ขับพิษ และแก้อาการลงแดงจากการติดยาเสพติด เป็นส่วนผสมของยาประสะเหมือดคน และยาจันทน์ลีลา และยาแก้ไข้ห้าราก  ชาวโอรังอัสลีในรัฐเประ ประเทศมาเลเซียนำรากไปต้มกับชาใช้กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ

ในทางเภสัชวิทยา ปลาไหลเผือกใหญ่ มีฤทธิ์ลดไข้ ต้านมาลาเรีย มีฤทธิ์กระตุ้นความรู้สึกทางเพศของหนูตัวผู้ ลดความวิตกกังวล เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง ต้านการก่อเกิดเนื้องอก ลดน้ำตาลในเลือด สารออกฤทธิ์ที่สำคัญได้แก่ สารกลุ่ม quassinoids เช่น eurycomalactone eurycomanol eurycomanone ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาเลเรียในหลอดทดลอง

บำรุงกำลังชาย

สรรพคุณของสมุนไพร รากปลาไหลเผือก 100%

  • ออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone)

  • ช่วยเพิ่มจำนวนตัวสเปิร์มในน้ำอสุจิ บำรุงสเปิร์มและไขกระดูก

  • ชะลอการหลั่ง แก้ปัญหาอาการหลั่งเร็ว

  • บำรุงกำลัง บำรุงร่างกายให้แข็งแรง

  • เสริมสร้างฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth hormone) ซึ่งจะช่วยในการชะลอความเสื่อมหรือ ชะลอความชราให้กับร่างกาย

  • เสริมสมรรถภาพทางเพศให้สมบูรณ์ โดยช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวดีขึ้น ทำให้เกิดการตื่นตัวทางเพศ ทำให้มีความคงทนในการมีเพศสัมพันธ์ได้นานขึ้น

  • เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือด

  • ป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง,โรคเบาหวาน,ลดน้ำตาลในเลือด, บำรุงไต

  • ลดไข้ ลดอาการเมื่อยล้า เพิ่มพลังงาน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

  • ประกอบด้วย Superoxide dimutase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ

  • ลดภาวะวัยทองในผู้ชาย และหญิง, แก้ปวดมดลูกและตกขาวในผู้หญิง

  • มีคุณสมบัติในการต่อต้านเซลล์มะเร็งปอดและมะเร็งเต้านมได้ มีฤทธิ์ต้านเชื้อมาลาเรีย

  • ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดเอว แก้ปวดกระดูก

  • ใช้ในการรักษาอาการข้อเสื่อมรูมาติก, เกาต์ และอื่นๆ เช่น อาการปวดข้อในหญิงวัยหมดประจำเดือน

ที่เรียกสมุนไพรชนิดนี้ว่า “ปลาไหลเผือก” เนื่องจากรากของสมุนไพรชนิดนี้มีลักษณะเหมือนปลาไหลเผือก คือมีสีขาวยาวๆ เหมือนปลาไหลเผือก และยังมีรากเดียว บางครั้งจึงมีคนเรียกว่า พญารากเดียว ส่วนรากปลาไหลเผือก ถ้ามีอายุหลายปี จะมีความยาวมาก บางครั้งยาวมากกว่าความสูงของคนเสียอีก จนทำให้บางท้องที่เรียกปลาไหลเผือกว่า #ตรึงบาดาล

 

      ประวัติศาสตร์การใช้ประโยชน์เพื่อปรับปรุงสมรรถภาพ และเสริมพลังชีวิตของท่านชาย มานานกว่า ๑,๐๐๐ ปี ปัจจุบันด้วยการเจริญเติบโตของเทคโนโลยี โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์การแพทย์ #ตงกัทอาลี ได้ถูกวิเคราะห์ วิจัย จากทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ถึงบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างพลังชีวิตท่านชาย เพิ่มฮอร์โมนเพศ เสริมสร้าง และปรับปรุงสมรรถภาพ เพิ่มภูมิต้านทาน ลดสภาวะวัยทอง (ใช้ได้ผลทั้งชาย และหญิง) ฯลฯ

      การศึกษาวิจัยสมัยใหม่พบว่ารากปลาไหลเผือกมีสรรพคุณ ในการเพิ่มความแข็งแรง ของนักกีฬาได้อย่างชัดเจนด้วย

 

      ยาสมุนไพรพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี ใช้

      - รากปลาไหลเผือก ต้มน้ำดื่ม แก้ไข้ ฝนน้ำดื่ม แก้ปวดท้อง

      - รากปลาไหลเผือก นำไปเข้ายาบำรุงกำลัง โดยนำรากปลาไหลเผือก ผสมกับรากโลดทะนงแดง และพญาไฟ ฝนน้ำดื่ม แก้ไข้ ใช้เลิกเหล้า รากปลาไหลเผือก ผสมรากย่านางแดง และพญายา ฝนน้ำกินขับพิษ รากปลาไหลเผือก ผสมกับ รากโลดทะนงแดง และพญาไฟ ฝนน้ำกิน ทำให้อาเจียน ใช้เลิกเหล้า

ตำรายาไทย

      ใช้ รากปลาไหลเผือก รสขม เบื่อเมาเล็กน้อย ถ่ายพิษต่างๆ ถ่ายฝีในท้อง ถ่ายพิษไข้พิษเสมหะ และโลหิต แก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย ตัดไข้ทุกชนิด แก้ลม แก้วัณโรคระยะบวม ขับเหงื่อ ขับพยาธิ แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ ความดันเลือดสูง อัมพาต ขับถ่ายน้ำเหลือง แก้ท้องผูก

 

      นอกจากนั้นยังใช้เป็นส่วนประกอบในตำรับยาโบราณ ได้แก่

 

  1. “ยาสามราก” (ประกอบด้วยรากพืช 3 ชนิดคือ รากโลดทะนง รากฮังฮ้อน และรากปลาไหลเผือก) ทำให้อาเจียน และถ่าย ใช้ล้างพิษยาเสพติด ใช้บำบัดผู้ที่ติดยาเสพติด และแก้อาการลงแดงจากยาเสพติด โดยยานี้จะทำให้อาเจียน และถอนพิษยา

  2. เข้าตำรับ “ยาประสะเหมือดคน” แก้ไข้ แก้ร้อนใน นอกจากนั้นยังใช้รากปลาไหลเผือก มาผสมหญ้าแห้วหมู และรากผักติ้ว ต้มน้ำดื่มแก้ปัสสาวะขัด

  3. เป็นส่วนประกอบใน “ตำรับยาจันทน์ลีลา” ใช้รักษาไข้ตัวร้อน ไข้เปลี่ยนฤดู

  4. และตำรับ “ยาแก้ไข้ห้าราก” ช่วยแก้ไข้ แก้พิษไข้

 

ปลาไหลเผือกในการบำรุงกำหนัด    

 

ปลาไหลเผือก


     ปลาไหลเผือกกระตุ้นให้อัณฑะผลิตเทสทอสเตอร์โรนมากขึ้นด้วยตัวเอง โดยการส่งสัญญาณไปที่ระบบประสาทส่วนกลาง และต่อมพิททุอิทารี่ ไม่ใช่เป็นการให้ฮอร์โมนสังเคราะห์ ร่างกายเราสามารถรับเอาเทสทอสเตอร์โรนสังเคราะห์ได้ แต่ไอ้เจ้าฮอร์โมนสังเคราะห์จะเป็นตัวค่อยขัดขวางระบบต่างๆ ทางเพศ เป็นเหตุให้เจ้าโลก และอัณฑะของเราเหี่ยวเฉาลง เพราะว่าเมื่อเทสทอสเตอร์โรนมีระดับ(เทียม)สูงขึ้น ฮอร์โมนเพศ( แอนโดเจน และ เอสโทรเจน) จะส่งสัญญานไปให้ร่างกายสั่งลดระดับ หรือหยุดการผลิตเทสทอสเตอร์โรนเอง ของร่างกายลง เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “negative feedback” หรือ “การสนองตอบด้านลบ” ปลาไหลเผือกจะขัดขวางปฏิกิริยานี้ไม้ให้ไปยังระบบประสาทส่วนกลาง และต่อมพิททุอิทารี่ รับรู้เพื่อเหตุผลที่ต้องการให้ร่างกายยังคงผลิต และยกระดับเทสทอสเตอร์โรน ทำให้อัณฑะสามารถผลิตเทสทอสเตอร์โรนได้เต็มหน้าที่ และขีดความสามารถ เจ้าโลก และอัณฑะของท่านก็จะมีการเพิ่มขนาดที่ใหญ่โตขึ้น (ยืนยันว่าจริง)

 

การใช้ในรูปแบบของผงสมุนไพรแคปซูล

 

เพื่อให้กินง่าย ใช้ในการบำรุงสมรรถภาพทางเพศ  บำรุงฮอโมนเพศ

 และอื่นๆ เช่นปวดข้อในหญิงวัยหมดประจำเดือน ใช้บำรุงเซ็กซ์ เสริมสมรรถภาพทางเพศ และช่วย

เพิ่มจำนวนตัวสเปิร์มในน้ำอสุจิ เพิ่มความแข็งแรงและความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวของตัว

สเปิร์ม นอกจากนี้ ยังช่วยในการรักษาโรคต่างๆ โดยเข้าไปเสริมสารต่างๆที่มีผลต่อโรคนั้นเช่น

กระเพาะอาการอักเสบ ลดไข้ หอบหืด สร้างสมดุลให้กับฮอร์โมนเพศหญิง

หมายเหตุ

ซึ่งแนะนำให้กินตอนเช้า-เย็นก่อนอาหาร หรือก่อนนอน  ครั้งละ1- 2 แคปซูล กับน้ำอุ่น

หรือ  กินกับน้ำสไปรท์  จะได้ผลเร็วมาก

 

                                   หมามุ่ย

 

 

ไทยรัฐ วันที่ 18 มิย. 2559

 

เตือน นี่เป็นสาเหตุที่ร้านไม่จำหน่ายสินค้าประเภทนี้เลย เพราะหนึ่งร้านระมัดระวังเรื่องพวกนี้ให้ท่าน และสองให้ซื้อสมุนไพรจากร้านที่มีความรู้ด้านนี้จริงๆ อย่าหลงซื้อจากมือสมัครเล่น สูตรบ้าบอแปลกๆที่ไม่มีในตำรา เอามาผสมกัน

 

เคยเห็นสมุนไพรเช่นตรีผลา จตุผลา โสม ย่านาง หญ้าฮี๋ยุ่ม รากสามสิบ ฯลฯ ขายถุงหรือขวดละ 75 – 85 บาทไหมครับ บรรจุ 100 แคปซูล ท่านคิดว่าเขาเอาอะไรให้ท่านทาน สมุนไพรมีราหรือเปล่า หรือสมุนไพรผสมแปลก เป็นสูตรคิดเอง เอาของที่คิดว่าดีมาผสมแล้วคิดว่ามันจะดีเป็นสองเท่า สามเท่า แต่ไม่่ใช่นะครับ ยาไทยไม่ใช่เอาอะไรมาผสม มันอาจกลายเป็นยาทำลายตับ ไต ยาพิษ อย่าเลยครับ เป็นมะเร็งมันทรมานนะครับ เงินทองต้องรักษามหาศาล ทานของที่มั่นใจเถิดครับ เป็นแล้วมันแก้ไขไม่ได้นะครับ แวะที่นี่มีแต่ของไม่อันตราย

 

 

 

 

 

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : บำรุงกำลังชาย

ที่มา : http://www.thaiherbweb.com/product/528387/รากปลาไหลเผือก-สมุนไพรไวอากร้า.html

ความจริงของ สมุนไพรลดหน้าท้อง สมุนไพรไทยที่ใช้ ลดน้ำหนัก

 

จตุผลาธิกะ ประกอบด้วยผลไม้ 4 อย่าง คือ สมอไทย สมอพิเภก สมอเทศ มะขามป้อม ผลไม้ทั้ง 4 อย่างมีรส เปรี้ยว ฝาด ขม นำ และหวานน้อยตาม เมื่อมาประกอบกันในอัตราส่วนเสมอภาค มีสรรพคุณในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเสมหะ เมือกมัน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในอวัยวะหลายส่วน เช่น ปอด หลอดอาหาร หัวใจ หลอดเลือด ลำไส้ เมื่อใดที่เสมหะ เมือกมันมีส่วนเกินเนื่องจากอาหาร หรือมีไข้ การกำจัดส่วนเกินไปเป็นสิ่งจำเป็น มิฉะนั้นร่างกายก็จะป่วยไข้ได้

ความขมในจตุผลาธิกะ จะไปช่วยปรับระดับองค์ความร้อนในร่างกาย ขณะที่ความหวาน จะช่วยเชื่อมสมานเนื้อเยื่อให้สมบูรณ์ ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ยาชุดนี้เป็นยาที่ช่วยขจัด ควบคุม และบำรุง ไปในตัว นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการขับถ่ายของเสียในร่างกายที่ออกมาในรูปของลม อุจจาระ เหงื่อ อีกด้วย

มีผลงานวิจัยสรุปว่า เป็นยาที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้านอย่างไร ก็ได้อธิบายไปในเรื่องการกำจัดเสมหะและเมือกมันส่วนเกินไปแล้ว ผู้ที่มีสิวมาก ทานยาชุดนี้จะช่วยแก้สิวเป็นผลพลอยได้

สรุปได้ว่าเป็นยาที่ช่วยรักษาสมดุลของธาตุทั้งสี่  เวลาเช้าก่อนทานอาหาร ทานบ้างหยุดบ้าง อย่าไปเคร่งครัดว่าต้องทานทุกวัน เมือใดที่รู้สึกว่าทานอาหารมัน เลี่ยน ก็ทานมากหน่อย เมื่อใดที่รู้สึกว่าอาหารที่ทานเข้าไปเป็นอาหารที่ดี สารพิษน้อย ก็หยุดทานได้ จะกำหนดตายตัวไม่ได้ว่า เท่าใดจึงพอไม่ได้ เพราะธาตุและสภาพร่างกาย วิธีการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร อารมณ์ อากาศที่ได้รับของแต่ละคนไม่เหมือนกัน 

สรรพคุณ จตุผลาธิก


การศึกษาวิจัยในห้องทดลองพบว่า จตุผลาธิกะสมุนไพรไทยทั้ง 4 ชนิด มีคุณสมบัติในการกำจัดอนุมูลอิสระได้สูงมาก ดังนั้น เป็น จตุผลาธิกะ สมุนไพรลดน้ำหนัก สมุนไพรลดหน้าท้อง สมุนไพรลดความอ้วน ที่
       1. ช่วยให้ผิวขาวปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ผิวพรรณดี เปล่งปรั่ง สามารถนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
      2. ช่วยทำให้หน้าท้องแบบราบ ถ่ายไขมันออกโดยเฉพาะหน้าท้อง
      3. บำรุงเลือด การทำงานของเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดง คนส่วนใหญ่มักจะไม่ตระหนักถึงความสำคัญของระบบเลือด ทั้งที่ระบบเลือด ทางสายเอกที่จะนำเอาอาหาร ออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ผิวขนาดเดียวกันก็กลับนำสารพิษของเสียออกมาทิ้ง และโรคหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดอย่างคาดไม่ถึง ฉะนั้นสมุนไพรทองเนื้องามตัวนี้มีสรรพคุณ ช่วยปรับสมดุลธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ นั่นเองและเป็นสมุนไพรลดความอ้วน

เมื่อทาน จตุผลาธิกะ (ทานร่วมกับสมุนไพรลดน้ำหนักอื่นๆตามรายการล่างสุดได้อย่างดี)
     เดือนแรก  ถ่ายดำ เมือกมันสูง  
     เดือนที่สาม ร่างกายฟิตอย่างรู้สึกได้ ใส่กางเกงที่เคยคับได้ พุง หน้าท้องยุบแต่น้ำหนักยังไม่ลด ผิวดีตัวเบา
     เดือนที่สี่  พุง หน้าท้องยุบอย่างรู้สึกได้  น้ำหนักลดลง ผิวดี สีสม่ำเสมอ
     ทานต่อเนื่องเพื่อน้ำหนักลด  ไม่มีอาการปวดหัว  ใจไม่สั่น  ตับไม่พัง ไตไม่พัง ต่อเนื่องกัน 4-6 เดือน

สมุนไพรลดน้ำหนัก

ตอนนี้หลายๆคนคงหาวิธีลดน้ำหนักกันอยู่ ทั้งไปออกกำลังกาย ทั้งยอมอดอาหาร และบางคนก็เน้นทานอาหารเสริม แต่เดี๋ยวก่อนอาหารเสริมนั้นก็หาใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป เพราะอาจจะมีสารตกค้าง หรือสารอันตรายเจือปนอยู่ก็เป็นได้พวกอาหารเสริมนั้นก็ทำการสกัดมาจากสมุนไพรธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้น ทำไมเราไม่ลองมาทานผัก ผลไม้ หรือสมุนไพรสดๆ หรือนำมาปรุงอาหาร ทำเครื่องดื่มกันไปเลย ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ไม่ต้องเสียเงินซื้ออาหารเสริมลดน้ำหนักแพงๆด้วยเพราะมีสมุนไพรไทยที่ นิยมนำมาใช้ในการช่วยลดน้ำหนักมากมาย ดังนี้

มะนาว

ถ้าจะให้พูดถึงสมุนไพรที่รสชาติเปรี้ยวจี๊ดที่สามารถลดน้ำหนักได้ ก็คงต้องนึกถึงมะนาวอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้มะนาวกลายเป็นพืชสมุนไพรยอดนิยมที่นำมาใช้ในการลดน้ำหนัก แถมสูตรในการลดน้ำหนักด้วยน้ำมะนาวก็ยังมีหลากหลาย

เหตุผลที่น้ำมะนาวสามารถลดความอ้วนอย่างได้ผลก็เป็นเพราะมะนาวมีกรดต่าง ๆ ซึ่งช่วยในการสลายไขมัน นอกจากนี้มะนาวยังมีวิตามินซีสูง เมื่อได้รับเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะก็จะทำให้ไขมันในร่างกายลดลง ระดับไตรกลีเซอไรด์ก็จะเป็นปกติ ไขมันเลวจะลดลงและช่วยให้ไขมันดีเพิ่มขึ้น แถมมะนาวยังมีไฟเบอร์สูง ทำให้รู้สึกอิ่มและลดความอยากอาหารได้ ใครที่กำลังอยากจะลดความอ้วนแล้วชอบรสเปรี้ยวล่ะก็ มะนาวนี่ล่ะไม่ควรพลาด

เม็ดแมงลัก

แม้ว่าเม็ดแมงลักจะไม่ได้มีสารอาหารที่ช่วยในการลดความอ้วนโดยตรง แต่เม็ดแมงลักก็สามารถช่วยในการควบคุมอาหารได้ เพราะเม็ดแมงลักเป็นพืชที่ไม่ก่อให้เกิดพลังงาน แถมยังสามารถพองตัวได้ถึง 45 เท่า หากนำมารับประทานก่อนอาหารก็จะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง และช่วยให้ทานอาหารได้น้อยลง

นอกจากนี้เม็ดแมงลักยังสามารถรับประทานได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ปลอดภัยต่อหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรอีกด้วย แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบกินเม็ดแมงลักจืด ๆก็ลองนำไปกับผสมเครื่องดื่มอื่น ๆ ได้ตามใจชอบ แต่ก็ต้องนำไปแช่น้ำให้พองจนเต็มที่ก่อน ไม่งั้นอาจทำให้ท้องอืดและท้องผูกแทน

ลูกสำรอง

ลูกสำรอง หรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า "พุงทะลาย" ซึ่งก็มีสรรพคุณในการลดความอ้วนได้เหมือนชื่อเลยล่ะ เพราะลูกสำรองเมื่อนำไปแช่น้ำก็จะเกิดการพองตัวและเมื่อรับประทานเข้าไปก็จะ ทำให้อิ่มและทานอาหารได้น้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดไขมันให้ออกมาจากร่างกาย ล้างไขมันที่อยู่ในลำไส้ ด้วยการดูดซับไขมันเอาไว้แล้วขับออกมาในรูปแบบของการขับถ่าย

 

แต่ก็มีข้อมูลทางเภสัชวิทยาพูดถึงการกินลูกสำรองติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดลดลงได้ ดังนั้นถ้าคิดจะใช้ลูกสำรองในการช่วยลดน้ำหนักก็ควรจะรับประทานให้พอเหมาะ

กระเจี๊ยบแดง

กระเจี๊ยบแดงที่เรานำมาทำเป็นน้ำกระเจี๊ยบ เป็นพืชสมุนไพรที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะกลีบเลี้ยงของดอก หรือกลีบที่เหลือที่ติดอยู่กับผล สามารถใช้เป็นยาลดไขมันในเส้นเลือด โดยได้มีการศึกษาวิจัยและทดลองกับกระต่ายที่มีไขมันสูงแล้วพบว่าระดับไตรกลี เซอไรด์ คอเลสเตอรอล และระดับไขมันเลว (LDL) ลดลง และมีปริมาณของไขมันชนิดดี (HDL) เพิ่มมากขึ้น แล้วก็ยังช่วยบรรเทาความรุนแรงของการอุดตันหลอดเลือดแดงใหญ่จากหัวใจให้น้อย ลง

ขณะที่ในประเทศอียิปต์ ยังมีการนำกระเจี๊ยบแดงทั้งต้นมาต้มกินเป็นยาลดน้ำหนัก เนื่องจากเป็นยาระบายและยังช่วยฆ่าเชื้อในลำไส้ได้อีกด้วย แต่เราไม่จำเป็นตองไปหาต้นกระเจี๊ยบมาต้มกินก็ได้นะคะ ถ้าอยากลดน้ำหนักด้วยกระเจี๊ยบจริง ๆ ละก็ ก็ลองหาน้้ำกระเจี๊ยบที่ไม่ผสมน้ำตาลมาดื่มก็จะช่วยได้เหมือนกันนะ

                                                           ดอกคำฝอย

ดอกคำฝอย เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ดีต่อการลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยขับเหงื่อ ซึ่งเหมาะมากหากจะนำมาชงดื่มก่อนนอน เพราะเป็นยาระบายอ่อน ๆ สามารถช่วยในการขับถ่าย ลดหน้าท้อง และช่วยลดน้ำหนัก ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถหาซื้อดอกคำฝอยสำเร็จรูปมาชงดื่มได้ง่าย

แต่ถ้าใครชอบความสดใหม่มากกว่าก็สามารถหาซื้อดอกคำฝอยที่มีสีแดงจัดมาต้มใน น้ำเดือดประมาณ 5 นาที แล้วกรองเอาแต่น้ำ ถ้าหากอยากได้รสชาติหวานก็สามารถเติมน้ำตาลได้ตามชอบ แต่ถ้าหากจะดื่มเพื่อลดความอ้วนล่ะก็ ควรจะเปลี่ยนมาใส่หญ้าหวานแทนเพื่อให้ได้รสชาติหวาน แถมยังได้ลดความอ้วนได้อีกด้วย

กะเพรา

กะเพราเป็นพืชสมุนไพรที่เรานิยมนำมาทำอาหารกันอย่างแพร่หลาย แถมยังเป็นอาหารยอดนิยมอีกด้วย ซึ่งสรรพคุณของกะเพรา ที่เรารู้กันดีอยู่แล้วนั่นก็คือมีฤทธิ์ขับลม ช่วยแก้จุดเสียด แน่นท้อง และแก้ปวดท้องอุจจาระได้ แต่สรรพคุณเด็ดของกะเพราอีกประการที่เราไม่ค่อยจะทราบกันนั่นก็คือ ช่วยขับไขมันและน้ำตาล

ทำไมอาหารตามสั่งต้องมีเมนูผัดกะเพราเนื้อ กะเพราไก่ กะเพราหมู นั่นก็เพราะนอกจากใบกะเพราจะช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้แล้ว ยังมีฤทธิ์ขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย อีกทั้งกะเพราจะช่วยขับน้ำดีในตับออกมาให้ช่วยย่อยไขมันได้ดีขึ้นด้วย

 

 

กระเทียม

กระเทียม สมุนไพรที่คนไทยมักนิยมนำมาทำเป็นอาหารมากที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารจานไหนก็ต้องมีกระเทียมเป็นส่วนประกอบ แต่ต้องเป็นกระเทียมสดเท่านั้นส่วนกระเทียมที่ผ่านการนำไปปรุงในอาหารแล้วไม่สามารถช่วยลดความอ้วนได้ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะในกระเทียมนั้นมีสารอัลลิซินซึ่งมีคุณสมบัติในการลด คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด, ช่วยลดน้ำตาลกลูโคสในเลือด, ช่วยเสริมประสิทธิภาพของยาฆ่าเชื้อรา,

สมุนไพรลดน้ำหนัก

ช่วยลดการอักเสบ, มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, ยับยั้งเนื้องอกและเซลล์มะเร็งบางชนิด ซึ่งมีการทดลองพบว่าถ้าหากรับประทานกระเทียมวันละ 10 กลีบ จะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลนั้นลดลง 14% ไขมันไม่ดีอย่าง LDL ลดลง 17% และไขมันดีอย่าง HDL เพิ่มขึ้นสูงถึง 41% เลยทีเดียว แต่สารอัลลิซินนั้นจะถูกทำลายเมื่อไปสัมผัสกับน้ำมันและความร้อน ดังนั้นจึงควรที่จะรับประทานกระเทียมสด ๆอย่างน้อยวันละ 3-5 กลีบเล็กก่อนอาหารเพื่อลดน้ำหนัก

แต่ถ้าอยากเพิ่มมวลกล้ามเนื้อด้วย ก็ให้รับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหาร ก็จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้มากขึ้นได้ แต่ก็อย่าลืมเรื่องกลิ่นปากและกลิ่นตัวด้วยเพราะกระเทียมนั้นกลิ่นแรงมาก

พริก

ไม่น่าเชื่อว่าพริกจะมีความสามารถช่วยลดความอ้วนได้ แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าพริกมีวิตามินซีสูง ซึ่งเจ้าวิตามินซีนี่ล่ะที่จะไปช่วยขยายเส้นเลือดในลำไส้และกระเพาะอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และช่วยในระบบขับถ่ายอีกด้วย นอกจากวิตามินแล้ว ในพริกยังมีสารแคปไซซิน (Capsaicin), โอลีโอเรซิน (Oleoresin) และกรดแอสคอร์บิก ซึ่งกรดแอสคอร์บิกนี่ล่ะที่มีบทบาทสำคัญในการลดความอ้วน เพราะมันจะไปช่วยให้ไขมันถูกเผาผลาญกลายเป็นพลังงานได้ดี ถ้าหากใครที่เป็นคนที่ร่างกายมีการเผาผลาญต่ำ การกินพริกเข้าไปบ่อย ๆ  ก็จะช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พริกจะช่วยลดความอ้วนได้ แต่ก็ต้องรับประทานเป็นจำนวนมากถึงจะได้รับสารอาหารที่อยู่ในพริกเพียงพอ ดังนั้นถ้าหากต้องการใช้พริกช่วยในการลดความอ้วน แนะนำให้รับประทานพริกในรูปแบบของสารสกัดจะดีกว่าทานแบบสด ๆ เป็นกำ ๆ ที่อาจทำให้ท้องอืด ปวดท้อง เป็นโรคกระเพาะได้อีกต่างหาก

หญ้าหวาน

หญ้าหวานถือเป็นสมุนไพรที่นอกจากจะให้ความหวานได้เหมือนน้ำตาลแล้ว ยังช่วยให้สามารถลดความอ้วนได้ด้วย เพราะหญ้าหวานเป็นพืชที่ไม่ให้พลังงานและแคลอรี่ต่ำมาก สามารถนำไปผสมกับเครื่องดื่มหรือนำไปปรุงรสชาติอาหารแทนน้ำตาลก็ได้ทั้งนั้น แถมความหวานที่ได้จากหญ้าหวานยังมากกว่าน้ำตาลถึง 200-300 เท่าของซูโครส และหากรับประทานเป็นประจำก็ยังไม่มีผลข้างเคียงใดๆ

  

ขมิ้นชัน

ขมิ้นมีสารพฤกษเคมีที่เรียกว่าเคอร์คูมิน ซึ่งสารชนิดนี้จะไปช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมัน ทำให้สามารถช่วยลดไขมันได้ โดยขมิ้นชันสามารถรับประทานได้ทั้งสดและนำไปปรุงกับอาหาร ถ้าหากนำไปปรุงกับอาหารจำพวกทอดก็จะช่วยย่อยไขมันในอาหารได้อีกด้วย และที่สำคัญไม่ควรให้ขมิ้นอยู่ในความร้อนมากกว่า 65 องศาเพราะอาจจะทำให้เกิดสารสเตรอยด์ในขมิ้นได้

                                                             

ส้มแขก

ในผลส้มแขกมีสาร HAC หรือสารไฮดรอกซีซิตริกแอสิด อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสารที่ว่านี้เป็นสารมีคุณสมบัติที่ดีในการเข้าไปสกัดและยับยั้งการสะสม ของไขมันส่วนเกินไนร่างกาย และยังช่วยทำให้ทานอาหารได้น้อยลง หน้าท้องยุบ รูปร่างเพรียวขึ้น โดยคนส่วนใหญ่ก็มักจะรับประทานในรูปแบบของสารสกัดเสียมากกว่าและการเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ส้มแขกในการลดความอ้วนนั้นก็ควรเลือกขนาดปริมาณ 300–600 มก.และรับประทานตามที่ฉลากระบุเท่านั้นเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียง อย่างไรก็ตาม เราก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมัน ลดพวกของทอดของมัน และออกกำลังกายมาก ๆ เพื่อที่การลดน้ำหนักจะได้ มีประสิทธิภาพและไม่กลับมาอ้วนอีก

บุก

บุกเป็นพืชที่คนกำลังลดความอ้วนนิยมนำมารับประทาน เพราะบุกมีสารกลูโคแมนแนน ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วย กลูโคส แมนโนส ฟรุคโทส มีลักษณะข้น ๆ เหนียว ๆ เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้อิ่มเร็ว เพราะความเหนียวหนืดของกลูโคแมนแนนจะชะลอการดูดซึมของกลูโคสจากทางเดินอาหาร ไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย จึงทำให้การบริโภคอาหารอื่น ๆ น้อยลงไปโดยปริยาย แถมยังมีกากใยสูงทำให้ดีต่อลำไส้และการขับถ่ายอีกด้วย



ที่มา : http://www.thaiherbweb.com/product-type/6607/จตุผลา-ลดหน้าท้อง-ผิวงาม-.html

สมุนไพร รักษาโรค

 

                               

 

สมุนไพรรักษามะเร็ง

มีสมุนไพรไทยหลายชนิดที่มีสรรพคุณในการป้องกัน และรักษาโรคมะเร็งได้ ดังนั้น ในระยะหลังมานี้ จึงมีผู้ป่วยมะเร็งหลายรายหันมาพึ่งสมุนไพรไทยเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ในการรักษาโรค

มะเร็ง คือ เซลล์เนื้อร้ายที่เจริญเติบโตผิดปกติ แทรกซึมเข้าไปในเซลล์ดีที่อยู่โดยรอบ เมื่อเข้าไปในเส้นเลือดและน้ำเหลือง แล้วจะกระจายไปในอวัยวะต่างๆ ทำให้เนื้อเยื่อของอวัยวะนั้นเสื่อมไป

ส่วนสาเหตุของโรคมะเร็งเกิดได้ 3 ทาง คือ

-เกิดจากจากทางพันธ์กรรม

-เกิดจากการได้รับสารก่อมะเร็ง เช่น สารเคมี รังสี ไวรัส สารพิษจากสิ่งแวดล้อม

-เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมและการโภชนาที่มากไป น้อยไม่ ไม่พอดี

เมื่อสารก่อมะเร็งเข้าไปในร่างกายจะไปจับยีนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น เกิดการกลายพันธุ์ หรือกระตุ้นยีนมะเร็งให้แสดงออกมากขึ้น โดยให้เซลล์ปกติเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งแล้วแบ่งตัวไปเรื่อยๆ ไม่หยุด จนเป็นก้อนมะเร็งใหญ่

โรคมะเร็งสามารถป้องกันได้

ร่างกายคนเรามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น แต่เราไม่ป่วยเป็นมะเร็งได้เพราะ ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่งด้วยระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถต่อสู้กับ มะเร็งได้ ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทำลายด้วยวิธีต่างๆ

เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ได้แก่ การกินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ อาหารไม่สะอาดเต็มไปด้วยสารพิษ สารก่อมะเร็ง การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ และการไม่ออกกำลังกาย

การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

-การรับประทานอาหารที่มีเส้นใย (Fiber) มาก อาหารที่มีวิตามินเอ ซี อี สูง เช่น กระเทียม หัวหอม ผักใบเขียว ผัก ผลไม้ ตลอดทั้ง อาหารสมุนไพร เครื่องประกอบอาหารต้องปลอดเชื้อราและสารพิษ

-ลด อาหารไขมันสัตว์

-เลิก อาหารกระป๋อง อาหารที่มีสีสังเคราะห์และสารเคมี เช่น สารกันปูด สีที่ไม่ใช่สีผสมอาหาร

-เลี่ยง อาหารปิ้ง ย่าง เผา อบ รมควัน

ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรรับประทานผักผลไม้เพราะผักผลไม้หลายชนิดมีคุณสมบัติเป็น ตัวกำจัดอนุมูลอิสระ (แอนตี้ออกซิแดนท์) และสารฆ่ามะเร็ง ในวันหนึ่งๆ ควรได้ผัก 30% ผลไม้ 10% ถั่วและปลา 10% และข้าวกล้อง หรือ มัน เผือก 50%

สมุนไพรรักษามะเร็ง

                               

#เห็ดหลินจือ

นพ. บรรเจิด ตันติวิท ได้กล่าวถึงเห็ดลินจือสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ จากหนังสือ "หลิงจือ กับ ข้าพเจ้า" ซึ่งได้พูดถึงเหตุผลว่าทำไมเห็ดหลินจือถึงรักษาโรคมะเร็งได้

ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าทำไมถึงไม่เป็นมะเร็ง เหตุผลที่เราไม่เป็นมะเร็งก็เพราะ

-ร่างกายเรามีระบบภูมิคุ้มกัน

-ร่างกายเรามีระบบแอนติออกซิแดนต์ (Antioxidants) ที่สามารถต่อสู้ ขจัดอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ DNA เกิดการเปลี่ยนแปลง

เบาหวาน

มารู้จักอนุมูลอิสระสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งกันก่อนว่า คืออะไร

อนุมูลอิสระ เป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียร เป็นของเสียที่ร่างกายต้องกำจัด ซึ่งอนุมูลอิสระเกิดจากการที่ร่างกายใช้ออกซิเจนเป็นเชื้อเพลิงในการเผาผลาญ และเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น ยา อาหาร บุหรี TV โทรศัพท์มือถือ อื่นๆ

เมื่อเซลล์ถูกโจมตีโดยอนุมูลอิสระ จะกลายเป็นของเสีย และที่สำคัญ DNA ที่ถูกอนุมูลอิสระโจมตีอาจกลายพันธุ์ เป็นเซลล์มะเร็งได้ ในร่างกายเราจะมีแอนติออกซิแดนต์ช่วยในการขจัดอนุมูลอิสระ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นความสามารถในการผลิตแอนติออกซิแดนต์ น้อยลง ในขณะที่อนุมูลอิสระกลับมากขึ้นเนื่องจากร่ายกายเผาผลาญไม่สมบูรณ์

เกิดเป็นของเสียมากขึ้น ด้วยสาเหตุนี้เราถึงเป็นมะเร็งเมื่ออายุมาก

เห็ดหลินจือช่วยได้ เพราะ เห็ดหลินจือเป็นแอนติออกซิแดนต์สามารถขจัดอนุมูลอิสระได้ ลดการเกิดของมะเร็ง ป้องกันโรคมะเร็งโดยปกติผนังเซลล์ในร่างกายเราจะมีศักย์ไฟฟ้า สังเกตง่ายๆตอนแพทย์ตรวจคลื่นหัวใจ คลื่นสมอง จะมีกราฟแสดงการขึ้นลง และศักย์ไฟฟ้าของเซลล์แต่ละอวัยวะจะมีคลื่นไม่เหมือนกัน

เซลล์ที่เกิดการอับเสบ หรือถูกอนุมูลอิสระก่อกวน ก็จะมีศักย์ไฟฟ้าที่แปรปรวนผิดไป รวมถึงอารมณ์และความเครียดด้วยที่ทำให้ ศักย์ไฟฟ้าแปรปรวน สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เซลล์ที่เป็นมะเร็งแล้วจะมีค่าศักย์ไฟฟ้าสูง เพราะเซลล์มะเร็งโตเร็วต้องการพลังงานมาก

การที่ค่าศักย์ไฟฟ้าสูงทำให้เกิดปัญหาว่า เมื่อเม็ดเลือดขาวจะเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็ง เจอศักย์ไฟฟ้าสูงทำให้หมดสภาพ ไม่สามารถเอาชนะเซลล์มะเร็งได้ ด้วยเหตุนี้การรักษามะเร็งด้วยวิธีการกระตุ้นภูมิคุ้มกันอย่างเดียวจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จ

เห็ดหลินจือช่วยได้ คือ เห็ดหลินจือช่วยทำให้ศักย์ไฟฟ้าของเซลล์มะเร็งต่ำลง ทำให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปต่อสู้ทำลายเซลล์มะเร็งได้ เพราะ เห็ดหลินจือมีสารเยอมาเนียมที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและมีโครงสร้างที่ สามารถจับกับอิเล็กตรอนทำให้ศักย์ไฟฟ้าบริเวณเซลล์มะเร็งต่ำลง เมื่อศักย์ไฟฟ้าของเซลล์มะเร็งต่ำลงทำให้เม็ดเลือดขาวต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง ได้ เพราะเหตุนี้เห็ดหลินจือจึงสามารถรักษาโรคมะเร็งโดยใช้ระบบภูมิคุ้มของร่าง กายได้

เห็ดหลินจือช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง และให้ภูมิคุ้มกันเป็นตัวกำจัดมะเร็งเอง เนื่องจาก เห็ดหลินจือมีสารเยอรมาเนียมที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วยังมีสารโพลี แซคคาไรด์อีกตัวที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และยังโปรตีน Lz-8 ในเห็ดหลินจือที่ช่วยปรับภูมิคุ้มกันให้ทำงานเป็นปกติไม่ผิดเพี้ยน

สรุป เห็ดหลินจือช่วยรักษาโรคมะเร็งได้เพราะ

-เห็ดหลินจือเป็นแอนติอ็อกซิแดนต์ที่ดี สามารถขจัดอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง

-เห็ดหลินจือช่วยทำให้ศักย์ไฟฟ้าของเซลล์มะเร็งต่ำลง ทำให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปต่อสู้ทำลายเซลล์มะเร็งได้

-เห็ดหลินจือช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในแก่ร่างกายปรับ สมดุลไม่ให้ทำงานผิดเพี้ยน เมื่อภูมิคุ้มกันแข็งแรงก็สามารถต่อสู้กับเชื้อมะเร็งได้

-การทำคีโม นอกจะทำลายเซลล์มะเร็งแล้ว เซลล์ปกติบริเวณรอบข้างก็ถูกทำลายไปด้วย ซึ่งต่างจากเห็ดหลินจือ ที่เห็ดหลินจือทำงานผ่านระบบภูมิคุ้มกัน คือ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงทำงานเป็นปกติไม่ผิดเพี้ยน แล้วให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเรานี้เป็นตัวจัดการกับเซลล์มะเร็งเอง ทำให้เซลล์ปกติอื่นไม่โดนทำลาย เพราะภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถแยกแยะได้ว่าเซลล์ไหนเป็นเซลล์ดีหรือเซลล์ ไม่ดี

-การทำคีโม มีผลข้างเคียงทำให้เม็ดเลือดขาวลดลง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเม็ดเลือดขาวแห้ง เพราะยาที่ใช้ทำคีโมมีพิษมาก เห็ดหลินจือสามารถช่วยกระตุ้นให้ไขกระดูกผลิตเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้นได้ จึงลดผลข้างเคียงของการทำคีโมได้บ้าง

-คนที่เป็นโรคมะเร็ง มักจะทานยาแผนปัจจุบันเยอะ รวมถึงทำคีโมด้วย ซึ่งก็เป็นที่รู้กันดีว่าการทานยาแผนปัจจุบันมาก เป็นเวลาติดต่อกัน มีผลข้างเคียงคือ ตับโดนทำลายโดยเฉพาะการทำคีโมทำให้ตับเสื่อม เห็ดหลินจือช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพตับ ทำให้ตับทำงานได้ดีขึ้น

-เห็ดหลินจือมีความปลอดภัยสูง จัดเป็นยาบำรุงร่างกาย ยาอายุวัฒนะ ทานติดต่อกันได้เป็นเวลานาน

                                          

#มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก ช่วยในการยับยั้งเชื้อมะเร็ง

สภาวิจัยแห่งชาติสนับหนุนนักวิจัยจากธรรมศาสตร์ ซึ่งค้นพบว่าสารสกัดจากสมุนไพร 3 ชนิดคือ มะขามป้อม สมอไทยและ สมอพิเภก สามารถหยุดมะเร็งและยับยั้งเซลล์ร้ายโดยทดลองฆ่าเซลล์มะเร็งที่เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการวิจัยได้ผลดี แต่ยังไม่ได้ศึกษาในสัตว์และผู้ป่วยจริง เผยผลวิจัยปูทางผลิตเป็นยาสยบมะเร็งสำคัญที่คร่าชีวิตคนไทย ทั้งมะเร็งตับ ปอด ปากมดลูกและอื่นๆ

ผศ.ดร.สีหณัฐ ธนาภรณ์ สาขาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก สารสกัดสมุนไพร 3 ชนิดนี้ สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตและสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ การทดลองใช้ระบบมาตรฐานของสหรัฐ โดยเพาะเลี้ยงเซลล์ในจานหลุมและนำสารสกัดมาทดสอบทีละชนิด พบว่ามะขามป้อม สมอไทยและสมอพิเภก สามารถช่วยลดสารก่อมะเร็ง ทั้งยังฆ่าเซลล์มะเร็งได้ดีอีกด้วย

ด้าน ดร.ชาตรี งามกิติเดชากุล สาขาชีวเคมี สถานวิทยาศาสตร์ฯ หนึ่งในทีมวิจัย เสริมว่า เซลล์มะเร็งที่ทีมวิจัยนำมาทดสอบด้วยการเพาะเลี้ยง ได้แก่ เซลล์มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก รังไข่ ลำไส้และเต้านม ผลสรุปที่แน่ชัดว่า มะขามป้อม สมอพิเภกและสมอไทย มีฤทธิ์ยับยั้งและสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ 100% โดยมีหลักฐานการทดลองยืนยันถึง 6 ขั้นตอน จากนั้นจะนำไปทดสอบในเชิงคลินิก หรือทดสอบในคนต่อไป

 

#หญ้าปักกิ่ง หรือหญ้าเทวดา สมุนไพรรักษามะเร็ง

ภ.ญ.ปัทมา สุนทรศารทูล อธิบายสรรพคุณว่า หญ้าปักกิ่ง หรือในชื่อภาษาจีนว่า เล้งจือเช่า หรือหญ้าเทวดา เป็นยามีรสจืด เย็น มีสรรพคุณในการยับยั้งโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งในคอ มะเร็งตับ มะเร็งมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว การตรวจวิเคราะห์ในห้องแล็บพบว่า ลำต้นหญ้าปักกิ่งมีสารกลุ่มกลัยโคสพิงโกไลบิตส์ เป็นสารต้านมะเร็งระยะต้น ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เช่น โรคมะเร็ง เส้นเลือดหัวใจตีบ โรคภูมิแพ้ โรคความดันและเบาหวาน สามารถใช้รักษาร่วมกับยาแผนปัจจุบันได้ ช่วยลดอาการข้างเคียงจาการฉายแสง ในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องฉายแสง

ประวัติการรักษาโรคมะเร็งในประเทศนั้น ภญ.ปัทมา กล่าวว่า ประมาณปี 2527 มีผู้ป่วยโรคมะเร็งดื่มน้ำคั้นสดจากหญ้าเทวดาเพื่อรักษาและบรรเทาอาการจาก โรคมะเร็ง สามารถยืดชีวิตต่อไปได้ในระยะหนึ่ง ทำให้หญ้าเทวดาเป็นที่สนใจมาก นอกจากนั้นมีผู้ป่วยโรคมะเร็งรายหนึ่ง แพทย์บอกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 3 เดือน ขอให้นำไปพักรักษาที่บ้าน แต่ผู้ป่วยได้ดื่มน้ำหญ้าปักกิ่งคั้นสด 1 ปีต่อมายังไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ผลของผู้ป่วยรายนี้กระตุ้นให้มีการศึกษาวิจัยคุณสมบัติของหญ้าเทวดา

ชาวจีนสมัยโบราณใช้หญ้าปักกิ่งเป็นยารักษาโรคมานับพันปีแล้ว รักษาสารพัดโรคครอบจักรวาล เช่น บำรุงพลังปราณ ปรับสมดุลร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เคยทำวิจัยคุณสมบัติหญ้าปักกิ่ง พบว่า ไม่มีพิษสะสมต่ออวัยวะอื่น และได้สรรพคุณทางเคมีเภสัชว่า สามารถทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรงระยะอ่อน-ปานกลาง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และลำไส้ใหญ่ ซึ่งสารที่แสดงฤทธิ์ คือกลุ่มกลัยโคสพิงโกไลบิตส์

 

 

#หญ้าปักกิ่ง กลีบดอกสีฟ้าหรือสีม่วงอ่อน สมุนไพรรักษามะเร็ง มีสรรพคุณเสริมภูมิต้านทานมะเร็งได้

ด้านสรรพคุณทางยาจากข้อมูลยืนยันด้านวิทยาศาสตร์ พบว่า ในน้ำคั้นสดหญ้าปักกิ่งมีสารกลัยโคสฟิงโกไลปิดส์ (จี1บี) มีฤทธิ์ในการยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้เซลล์มะเร็งรุนแรงเพิ่มขึ้น ต้านการกลายพันธุ์ของยีน และยังเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายด้วย

ในการนำหญ้าปักกิ่งมาใช้ เพื่อให้ได้สารกลัยโคสฟิงโกไลปิดส์ (จี1บี) ครบ ควรใช้หญ้าปักกิ่งที่มีอายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ในกรณีที่ปลูกโดยใช้การปักชำ แต่หากใช้วิธีการปลูกด้วยเมล็ดต้องใช้ หญ้าปักกิ่งที่มีอายุตั้งแต่ 5 เดือนขึ้นไป ก่อนนำหญ้าปักกิ่งทั้งต้นและรากมาคั้นเอาน้ำ ต้องล้างทำความสะอาดให้ปราศจากสิ่งปนเปื้อนไม่ว่าดินและสารเคมี

ปริมาณในการดื่ม ดื่มครั้งละ 50 ml วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ก่อนอาหาร ในการรับประทาน ควรรับประทานเป็นรอบ คือ รับประทาน 7 วัน แล้วหยุด 4 วัน แล้วเริ่มรับประทานรอบใหม่

กรณีต้องการเสริมภูมิต้านทาน ไม่ได้เป็นมะเร็ง ไม่ควรบริโภคเกิน 6-8 สัปดาห์ กรณีลดผลข้างเคียงของการฉายรังสีหรือเคมีบำบัด ของผู้ป่วยมะเร็ง ควรรับประทานเป็นช่วงๆ เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน กรณีป้องกันการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและกันการกลับเป็นซ้ำ ควรทานติดต่อกันประมาณ 1 ปี พร้อมทั้งตรวจมะเร็งปีละ 2 ครั้ง

ไม่ควรรับประทานของแสลง ซึ่งมีผลให้ฤทธิ์ยาอ่อนลง เช่น ฟักแฟง แตงกวา ผักกาดขาว มะระ หน่อไม้ หัวไชเท้า และผักบุ้ง



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.thaiherbweb.com/product-type/1998/มะเร็ง-เนื้องอก.html

ใบ มะรุมแคปซูล สรรพคุณ ลดความดัน น้ำตาล เบาหวาน

รู้ก่อนทาน สรรพคุณ ใบมะรุมแคปซูล 

http://www.thaiherbweb.com/private_folder/article/maroom260156.jpg

มะรุม จัดเป็นพืชผักพื้นบ้านของไทย มีประโยชน์อเนกประสงค์ ทั้งทางด้านอาหาร ยาและอุตสาหกรรม เป็นไม้ยืนต้นที่โตเร็ว ทนแล้ง ปลูกง่ายในเขตร้อน ใบมีรสหวานมัน ออกดอกในฤดูหนาว บางพันธุ์ออกดอกหลายครั้งในรอบปี ดอกเป็นดอกช่อ สีขาว ดอกมีรสขม หวาน มันเล็กน้อย ฝักมีรสหวาน มะรุมเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เช่น อินเดีย ศรีลังกา เป็นต้น และยังมีในเขตเอเชียไมเนอร์และแอฟริกา เป็นไม้ปลูกง่าย เจริญได้ดีในดินทุกชนิด ต้องการน้ำและความชื้นในปริมาณปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการปักชำกิ่ง งอกเร็ว ใช้เวลา 2 สัปดาห์ต้นกล้าสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร

มะรุมในทางการแพทย์จะช่วยใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วย#เบาหวาน ควบคุม#ภาวะความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มและ#เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย

  • ใบใช้ถอนพิษไข้ แก้เลือดออกตามไรฟัน #แก้อักเสบ แก้แผล ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับปัสสาวะ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต

  • ยอดอ่อนใช้ถอนพิษไข้

  • ดอกใช้แก้ไข้หัวลม เป็นยาบำรุง #ขับปัสสาวะ ขับน้ำตา ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันมะเร็ง

  • ฝักแก้ไข้ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต

  • เมล็ดเมล็ดปรุงเป็นยาแก้ไข้ แก้บวม แก้ปวดตามข้อ #ป้องกันมะเร็ง

  • รากรสเผ็ด หวาน ขม สรรพคุณ แก้อาการบวม บำรุงไฟธาตุ รักษาโรคหัวใจ รักษาโรคไขข้อ (rheumatism)

  • เปลือกลำต้นรสร้อน สรรพคุณขับลมในลำไส้ ทำให้ผายหรือเรอ คุมธาตุอ่อน ๆ แก้ลมอัมพาต ป้องกันมะเร็ง คุมกำเนิด เคี้ยวกินช่วยย่อยอาหาร

  • ยาง (gum)ฆ่าเชื้อไทฟอยด์ ซิฟิลิส (syphilis) แก้ปวดฟัน earache, asthma

http://www.thaiherbweb.com

#มะรุมแคปซูล ใช้เฉพาะ"ใบล้วน" ท่านทานใบคัดล้วน สรรพคุณดีกว่ามาก รักษาสุขภาพ ราคาถูก สมุนไพรล้างเมือกข้นเหนียวลำไส้ พิษตับ โปร CASH BACK เงินสด บริษัทยา 80 ปีผลิตแท้ บำรุงเลือด ย่านาง หลินจือ โสม ขมิ้นชัน พลูคาว หลินจือ โสมเกาหลี แป๊ะก้วย ตรีผลาล้างเมือกข้นเหนียวในลำไส้ ไขมันพอกตับ และ Promotion ในเดือนที่เลือกได้ทุกอย่าง  ทุกชนิด อบป้องกันราใยแมงมุม จากความชื้นที่จะก่อมะเร็ง

สุดขีดด้วยสรรพคุณจากใบ  ล้วนๆ  ยืดอายุ ดูดีสมวัย

  1. ทานใบคัดล้วน จะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าทั่วไปที่มีส่วนอื่นปน มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยับยั้งอนุมูลอิสระ ไม่ให้ทำลายเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย

  2. Thai Herb ไม่ทำให้คุณหรือครอบครัวเป็นมะเร็ง ทานมะรุมที่ใส่แคปซูลทั้งที่ไม่แห้งสนิท ทานของปน ปลอมเดือนละ 2 ขวด x 12 เดือน คือปีละ 24 ขวดต่อคน ได้รา แถมมะเร็งไม่รู้ตัว

  3. Thai Herb จ่ายน้อย ไม่มีรา ใช้เตาอบยาโดยเฉพาะ ดูแลโดยเภสัชและแพทย์แผนไทยไม่ผสมกิ่ง ราก เม็ดอื่นๆ  เป็นใบล้วน

  4. สมุนไพรรักษาโรค

สารอาหารเปรียบเทียบกรัมต่อกรัมใน "ใบ"  สุดขีดกับสรรพคุณจาก "ใบ"

  1. วิตามินC มากกว่าส้ม 7 เท่า วิตามินC สร้างภูมิต้านทาน

  2. มีแคลเซียม มากกว่านม 4 เท่า ช่วยเรื่องกระดูกพรุน และ แคลเซี่ยมจากพืชร่างกายดูดซึมได้ดีกว่ากว่าแคลเซี่ยมอื่นๆ

  3. มีวิตามินเอ มากกว่าแครอท 4 เท่า วิตามินเอ ช่วยเรื่องการมองเห็น และผิวพรรณ   

  4.  มีโปรตีน มากกว่านม 2 เท่า โปรตีนซ่อมแซมร่างกาย

  5. โปรแตสเซียม มากกว่ากล้วย 3 เท่า โปรแตสเซียมช่วยเรื่องเซลล์ประสาท ให้ทำงานปรกติ

สรรพคุณจาก นิตยสารหมอชาวบ้านlaughing

  1. ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง 10 ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอดได้เป็นอย่างดี

  2. ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้

  3. รักษาโรคความดันโลหิตสูง

  4. ช่วย เพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์ เด็กที่เกิดมาจะไม่ติดเชื้อHIV นอกจากนี้ถ้ารับประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้งยังช่วยให้คนทั่วๆไปสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ การรักษาโรคเอดส์ที่ประสพผลสำเร็จในกลุ่มประเทศแอฟริกา

  5. ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็ง แต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้ ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบัน หากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการรักษาด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีร่างกายที่แข็งแรง

  6. ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊าท์ โรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม

  7. รักษา โรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้น หากรับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์

  8. รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง ท้องเสีย ท้องผูก โรคพยาธิในลำไส้

  9. รักษาปอดให้แข็งแรง รักษาโรคทางเดินของลมหายใจ และโรคปอดอักเสบ

 

 

มะรุม

          ต้นมะรุมหาไม่ยากเลยในบ้านเรา แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้จักมะรุมกันมากนัก ซึ่งนี่ล่ะที่เป็นความพลาดอย่างแรง เพราะมะรุมเป็นพืชสมุนไพรที่ประโยชน์มากล้น เผลอ ๆ อาจเทียบชั้นกับซูเปอร์ฟู้ดอื่น ๆ ได้สบาย  สรรพคุณของมะรุมแทรกซึมอยู่แทบทุกส่วนของต้นมะรุม ไม่ว่าจะเป็นใบมะรุม ฝักมะมุม เปลือกต้น หรือรากมะรุม ทว่าใบมะรุมจะเป็นส่วนที่มีวิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินบีสูงมาก รวมทั้งธาตุเหล็กก็สูงไม่แพ้กัน จนกระทั่งงานวิจัยต่างประเทศยังยกให้ใบมะรุมเป็นซูเปอร์ฟู้ดชนิดหนึ่งเลยทีเดียว

"มะรุม" เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่ถูกปลูกไว้ในบริเวณบ้านไทยมาแต่โบราณ กินได้หลายส่วนทั้งยอด ดอก และฝักเขียว แต่ใครๆ ก็นิยมกินฝักมากกว่าส่วนอื่นๆ

          ต้นมะรุม พบได้ทุกภาคในประเทศไทย ทางอีสานเรียก "ผักอีฮุม หรือผักอีฮึม" ภาคเหนือเรียก "มะค้อม- ก้อน" ชาวกะเหรี่ยงแถบกาญจนบุรีเรียก "กาแน้งเดิง" ส่วนชาวฉานแถบแม่ฮ่องสอนเรียก "ผักเนื้อไก่" เป็นต้น

          ในตำรา ยาพื้นบ้านใช้ใบมะรุมพอกแผลช่วยห้ามเลือด ทำให้นอนหลับ เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ และช่วยแก้ไข้ ใช้ส่วนดอกและผลเป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ และแก้ไข้ ใช้ส่วนเมล็ดบดพอกแก้ปวดตามข้อ และแก้ไข้   ใน ภาพรวมของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการวิจัยในระดับเซลล์และสัตว์ทดลองพบว่า มะรุมมีฤทธิ์ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น ฤทธิ์ลดความดันโลหิต ต้านการเกิดเนื้องอก ต้านมะเร็ง ลดระดับคอเลสเตอรอล ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ป้องกันตับอักเสบ ต้านออกซิเดชัน ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดระดับน้ำตาล และฤทธิ์ต้านการอักเสบ

          ผู้เฒ่าผู้แก่นิยมกินมะรุมในช่วงต้นหนาวเพราะเป็นฤดูกาลของฝักมะรุม หาได้ง่าย รสชาติอร่อยเพราะสดเต็มที่ มีขายตามตลาดในช่วงฤดูกาล คนที่ปลูกมะรุม ไว้ในบ้านเท่านั้นจึงจะมีโอกาสลิ้มรสยอดมะรุม ใบ    อ่อน ช่อดอกและฝักอ่อน ช่อดอกนำไปดองเก็บไว้กิน     กับน้ำพริก ยอดมะรุม ใบอ่อน ช่อดอก และฝักอ่อนนำ  มาลวกหรือต้มให้สุก จิ้มกินกับน้ำพริกปลาร้า น้ำพริกแจ่วบอง กินแนมกับลาบ ก้อย แจ่วได้ทุกอย่าง หรือจะใช้ยอดอ่อน ช่อดอกทำแกงส้มหรือแกงอ่อมก็ได้

           ส่วนอื่นๆ ของโลกจะใช้ใบมะรุมประกอบอาหารเช่นเดียวกับการใช้ผักขมฝรั่ง หรือปรุงเป็นซอสข้นราดข้าวหรืออาหารแป้งอื่นๆ นอกจากนี้ ใช้ใบตากแห้งป่นเก็บไว้ได้นานโรยอาหาร เช่นเดียวกับที่ภูมิปัญญาอีสาน จังหวัดสกลนครใช้ใบมะรุมแห้งป่นเข้าเครื่อง "ผงนัว" กับสมุนไพรอื่นไว้แต่งรสอาหารมาแต่โบราณ ส่วนฝักอ่อนปรุงอาหารเหมือนถั่วแขก

ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นผลิตชาใบมะรุมออกจำหน่าย  ผลิตภัณฑ์ระบุว่าใช้แก้ไขปัญหาโรคปากนกกระจอก หอบหืด อาการปวดหูและปวดศีรษะ  ช่วยบำรุงสายตา ระบบทางเดินอาหาร และช่วยระบายกาก 
               
ประเทศอินเดีย หญิงตั้งครรภ์จะกินใบมะรุมเพื่อเสริมธาตุเหล็ก  แต่ที่ประเทศฟิลิปปินส์และบอสวานาหญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะกินแกงจืดใบมะรุม (ภาษาฟิลิปปินส์ เรียก "มาลังเก") เพื่อประสะน้ำนมและเพิ่มแคลเซียมให้กับนมแม่เหมือนกับคนไทย

ชะลอความแก่
กล่าวกันว่ามะรุมมีฤทธิ์ชะลอความแก่ เนื่องจากยังไม่พบรายงานการวิจัยเกี่ยวกับมะรุมในด้านนี้ คาดว่าเป็นการสรุปเนื่องจากมะรุมมีสารฟลาโวนอยด์สำคัญคือ รูทินและเควอเซทิน (rutin  และ quercetin) สารลูทีนและกรดแคฟฟีโอลิลควินิก (lutein และcaffeoylquinic acids) ซึ่งต้านอนุมูลอิสระ ดูแลอวัยวะต่างๆ ได้แก่ จอประสาทตา ตับ และหลอดเลือดจากการเสื่อมสภาพตามอายุ การกินสารต้านอนุมูลอิสระชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายได้

ฆ่าจุลินทรีย์
สารเบนซิลไทโอไซยาเนตไกลโคไซด์และเบนซิล-กลูโคซิโนเลตค้นพบในปี พ.ศ.๒๕๐๗ จากมะรุมมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ สนับสนุนการใช้น้ำคั้นจากมะรุมหยอดหูแก้ปวดหู  ปัจจุบันหลังจากการค้นพบแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร Helicobactor pylori กำลังมีการศึกษา สารจากมะรุมในการต้านเชื้อดังกล่าว

การป้องกันมะเร็ง
สารเบนซิลไทโอไซยาเนตไกลโคไซด์ชนิดหนึ่งและสารไนอาซิไมซิน (niazimicin) จากมะรุมสามารถต้านการเกิดมะเร็งที่ถูกกระตุ้นโดยสารฟอบอลเอสเทอร์ในเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ 
การทดลองในหนูพบว่าหนูที่ได้รับฝักมะรุมเป็นอาหารเกิดโรคมะเร็งผิวหนังจากการกระตุ้นน้อยกว่ากลุ่มทดลอง โดยกลุ่มที่กินมะรุมมีเนื้องอกบนผิวหนังน้อยกว่ากลุ่มควบคุม

ฤทธิ์ลดไขมันและคอเลสเทอรอล
จากการทดลอง ๑๒๐ วัน ให้กระต่ายกินฝักมะรุม วันละ ๒๐๐ กรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวันเทียบกับยาโลวาสแตทิน ๖ มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวันและให้อาหารไขมันมาก

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาโรค

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.thaiherbweb.com/product-type/2098/มะรุม-ใบล้วน.html

ตรีผลา สมุนไพรล้างพิษ ดีท็อก ไขมันเกาะตับ

 

#ตรีผลา

ดีท็อก

สมุนไพรไทย ตรีผลา อาจจะฟังดูชื่อแปลกๆสักหน่อย แต่ถ้าทราบความหมาย ก็จะเข้าใจว่าคืออะไร และแน่นอนว่าคุณประโยชน์ของ ตรีผลานั้นมากมายเหลือเกิน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาหาคำตอบกันได้เลย

ตรีผลา (Triphala) (อ่านว่า ตี-ผะ-หลา) คำว่า ตรี มาจากคำว่าสาม ส่วนคำว่า ผลา นั้นหมายถึงผลไม้ จึงหมายถึงผลไม้ 3 อย่าง ซึ่งประกอบไปด้วย ลูกสมอพิเภก (Terminaliabelerica (Gaertn.) Roxb.), ลูกสมอไทย (Terminaliachebula Retz.), ลูกมะขามป้อม (Phyllanthusemblica Linn.)

สรรพคุณ:ตรีผลา เป็นตำหรับยาแพทย์แผนไทย ที่ใช้ล้างพิษออกจากระบบต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร ระบบเลือด และระบบน้ำเหลือง เป็นสมุนไพรปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียงใดๆ ชื่อ ตรีผลา ก็บอกความหมายอยู่แล้ว ตรี แปลว่า สาม ผลา (ผล) คือ ผลไม้ 3 อย่าง ที่ประกอบกันเข้าเป็นตำรับเดียว แบบทรีอินวัน ได้แก่ สมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม

สมอไทย มี ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส รวมทั้ง HIV และแบคทีเรียบางชนิด บำรุงหัวใจ ต้านอนุมูลอิสระ และชะลอความชรา ควบคุมระดับไขมันในเส้นเลือดและช่วยการทำงานของตับในการกำจัดไขมันออก จากร่างกาย

มะขามป้อม มีวิตามินซีสูงมาก ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดเซลและเนื้อร้าย และแก้พิษตะกั่วได้

สมอพิเภก เป็นยาระบาย บำรุงธาตุ แก้เสมหะจุกคอ แก้โรคตา แก้ไข และริดสีดวงทวาร

สูตร ของตรีผลาเมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว จะไปขับพิษตกค้างและพิษถูกกำจัดออกจากร่างกายโดยสิ้นเชิง ทำให้ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้งขึ้นเพื่อกวาดล้าง ทำความสะอาดระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะลำไส้ใหญ่ให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมฤทธิ์ระบาย โดยไม่เป็นอันตราย เพราะสูตรนี้ควบคุมการถ่ายและการหยุดถ่ายโดยอัตโนมัติ ป้องกันมิให้ร่างกายอ่อนเพลีย ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย

ปัจจุบัน ตรีผลาเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกาในการล้างพิษ ตรีผลาจะควบคุมน้ำหนักได้ดี จะช่วยระบายไขมันออกมา พร้อมการขับถ่ายเป็นปกตินอก จากนี้ตรีผลายังช่วยลดโคเลสเตอรอลในตับ และในหลอดเลือดแดง ทำให้ตับแข็งแรงและความดันโลหิตเป็นปกติ แน่นอน ตรีผลาย่อมมีฤทธิ์ยกกำลังสามในการบำบัดเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน อาทิเช่น หวัด วัณโรค และเอดส์ ตรงนี้ขอแนะนำให้ใช้ตรีผลาร่วมกับยาแผนปัจจุบันสำหรับโรคเอดส์ด้วย

คณะ แพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่าจากการศึกษาพบว่า ตรีผลายับยั้งการเจริญเติบโตและฆ่าเซลล์มะเร็งได้ เซลล์มะเร็งที่ทีมวิจัยนำมาทดสอบด้วยการเพาะเลี้ยง ได้แก่ เซลล์มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก รังไข่ ลำไส้และเต้านม ซึ่งล้วนเป็นมะเร็งสำคัญอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตคนไทยและประชากรทั่วโลก ปีละหลายล้านราย

วิธีต้มยาหม้อ: ใน การต้มยาสมุนไพร ใช้สมุนไพร 1 ส่วน ใส่น้ำ 3 ส่วน ของหม้อ(ตรีผลา 1 ถุงต่อน้ำ 1 ลิตร) แนะนำให้ใช้หม้อดิน หรือหม้อสแตนเลส ต้มให้เดือด 10-15 นาที ในการเก็บรักษาควรปิดฝาให้สนิท เมื่อจะทานครั้งต่อไป นำมาต้มซ้ำอีกครั้ง ใส่น้ำให้ท่วมตัวยา แล้วต้มให้เดือด ประมาณ 20 นาที ต้มซ้ำจนกว่ารสยาจืด

ตรีผลา สามารถหาซื้อมาใช้ได้ง่ายในรูปของเครื่องดื่ม แต่ถ้าจะทำเองก็ได้โดยใช้ สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม อย่างละ 1 ส่วนเท่า ๆกัน แล้วใส่น้ำพอประมาณ ใช้รับประทานก่อนอาหารครั้งละ 1 แก้วเช้าและเย็น แต่ถ้าอยากจะได้แบบเข้มข้นก็ให้ใส่น้ำน้อย ๆ หรือถ้าอยากได้แบบเจือจางก็ใส่น้ำเยอะหน่อย หรืออีกสูตรให้ใช้สมอพิเภก 100 กรัม / สมอไทย 200 กรัม / มะขามป้อม 400 กรัม นำมาใส่ในหม้อต้มกับน้ำ 6 ลิตร แล้วต้มจนเดือดประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นให้ใส่น้ำตาลทรายแดง 600 กรัมและเกลืออีก 1 ช้อนชา เคี่ยวจนเข้ากันแล้วจึงยกออกจากเตาไฟ กรองเอาแต่น้ำมาใส่ขวดแช่เย็นไว้ จะดื่มร้อน ๆ เป็นชาก็ได้ ดื่มได้ทุกเวลาเช้า กลางวัน เย็น โดนไม่มีผลข้างเคียงได้ ๆ

ข้อควรระวัง : สำหรับสตรีในช่วงมีประจำเดือนควรงดการรับประทานตรีผลา เพราะอาจจะทำให้เลือดออกมามากกว่าปกติ และสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจไม่แนะนำให้รับประทาน

ตรีผลา สกัดแคปซูล เป็นการแปรรูปสมุนไพร ออกมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถทานได้ง่าย แต่ยังคงคุณภาพและสรรพคุณของตัวยาไว้ได้ ตรีผลา (Triphala Extract)แคปซูล สมุนไพรตรีผลา  สกัดเข้มข้นพิเศษ สูตรเฉพาะ ตราหมออรรถวุฒิ ประสิทธิภาพสูง โดยแพทย์แผนไทย และ เภสัชกร วัตถุดิบจากธรรมชาติ 100% เป็นสารสกัดเข้มข้น โดยวิธี Spray dry และ HPLC วิเคราะห์สารสำคัญก่อนผลิต ทำให้ตัวยาสำคัญมากกว่า และ ประสิทธิภาพ การรักษา ชัดเจนกว่า ตรีผลา ทั่วๆไป ดีท็อก" href="http://goo.gl/6y97Lc">DETOX ล้างพิษตับ ล้างพิษ เมือกมัน ตะกรันในลำไส้ ล้างไขมันเกาะตับ ไขมันพอกตับ ล้างน้ำเหลืองเสีย ผิวผ่อง เด้งเต่งตึง มีออร่า ลดรอยเหี่ยวย่น ลดรอยหลุมสิว ลดสิว สร้างคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียน รอยแผลเป็น รอยดำ จางเร็วขึ้น ชลอแก่ ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย ลดไขมันในเลือด ลดไตรกลีเซอรไรด์ ลด LDL และโคเลสเตอรอล ควบคุมน้ำหนัก ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ช่วยลดน้ำหนัก ลดบวมน้ำ ช่วยให้ผมดกดำปรับสมดุลขับถ่าย (โดยไม่ทำให้ท้องเสีย) เป็นยาอายุวัฒนะ ล้างน้ำเหลืองเสีย ไหลเวียนเลือด ทำให้ระบบเลือดสมบูรณ์ขึ้น บำรุงเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพร่างกายจากภายใน เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ทางเดินหายใจ และ ภูมิแพ้ผิวหนังปกป้องเซลล์ดีในร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระสูงมาก มากกว่าอาหารเสริมทั่วไปถึง 10 เท่า ทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายไม่เสื่อมโทรม ไม่ป่วยง่าย ดูอ่อนกว่าวัย ปลอดภัยจากสารไม่ดีในอาหาร หรือ มลภาวะภายนอก

"ตรีผลา" เป็นตำรับยาที่มีมาดั้งเดิมของแพทย์แผนไทย สรรพคุณคือ การใช้ระบายพิษจากระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกาย เช่น ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินโลหิต โดยจะไปทำหน้าที่ขับพิษต่างๆ ที่ตกค้างและกำจัดออกจากร่างกายโดยสิ้นเชิง ทำให้ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะบ่อยครั้ง เพื่อทำความสะอาดระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย โดยเฉพาะลำไส้ใหญ่ให้สะอาด ในขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมฤทธิ์ระบาย แต่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะยานี้จะควบคุมการถ่ายอย่างสมดุล ป้องกันมิให้ร่างกายอ่อนเพลีย และสามารถใช้ได้ดีทุกเพศทุกวัย บางคัมภีร์ของแพทย์แผนไทย ได้กล่าวถึงสรรพคุณของตรีผลา ว่าเป็นยาสำหรับลดความอ้วน เพราะเป็นยาที่สามารถลดมวลของร่างกายได้ คือทำหน้าที่เป็นยาระบายและลดการดูดซึมไขมันเข้าสู่ร่างกายโดยที่ร่างกายไม่สูญเสียน้ำและสารอาหาร จนเกิดอันตราย


และไม่เพียงเท่านั้น ตรีผลา ยังเป็นยาที่ชาวตะวันตกก็รู้จักดี ถึงกับเขียนบรรยายสรรพคุณของตรีผลาไว้ว่า “Even if your mother leaves you, everything will be fine if you have triphala” แปลได้ว่า “ตรีผลาจะดูแลสุขภาพคุณเป็นอย่างดีเหมือนแม่ ถึงแม้คุณไม่มีแม่”


ตรีผลา ในความหมายสมัยใหม่คือ ทรีอินวัน ซึ่งเราชอบนักชอบหนา เพราะใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง นึกจะว่าเป็นเรื่องราวของตะวันตก แต่แท้จริง ทรีอินวันของไทยมีมากมาตั้งนานแล้ว คำว่า ตรีผลา คือ ตรี ที่แปลว่า สาม ผลา ก็คือ ผล แปลรวมความคือ ผลไม้ 3 อย่าง ไม่ใช่ว่าจะเป็นผลไม้อะไรก็ได้ แต่ต้องเป็น 3 อย่างนี้เท่านั้น คือ มะขามป้อม สมอไทย และสมอพิเภก

 

              



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.thaiherbweb.com/product-type/6606/ตรีผลา-ล้างพิษ-ไขมันตับ-.html

กระชายดำแคปซูล แก้ปวดเมือย บำรุงร่างกาย บำรุงเพศชาย

กระชายดำ

#กระชายดำ

กระชายดำ นอกจากจะมีสรรพคุณทางยามากมายแล้ว ยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้ด้วย ทำให้กระชายดำ เป็นที่ต้องการในตลาดทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เรามาทำความรู้จักกับเจ้ากระชายดำ สมุนไพรยอดนิยมนี้กัน
ชื่อสามัญ :Belamcandachimensis
ชื่อวิทยาศาสตร์ :KaempferiaparvifloraWall.Ex Baker
ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE
ชื่ออื่นๆ :ว่านกระชายดำ กระชายม่วง ว่านเพชรดำ กระชายเลือด

#กระชายดำมีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียใต้ พบมากในเขตป่าและภูเขาของประเทศไทยและประเทศลาว ปัจจุบันในประเทศไทยมีการปลูกกระชายดำกระจายทั่วไป แต่จะปลูกมากในพื้นที่จังหวัดเลย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก
กระชายดำจัดอยู่ในประเภทพืชสมุนไพร ได้มีการนำมาใช้เป็นส่วนผสมของสูตรยาสมุนไพรนานแล้ว โดยเฉพาะยารักษาโรคต่างๆ และยาชูกำลังหรือยาบำรุงสมรรถภาพทางเพศ แต่จะเก็บไว้เป็นความลับเฉพาะตัวบุคคล ไม่เผยแพร่ให้รู้จัก ในอดีตจึงไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนัก แต่ในปัจจุบันได้รู้จักกระชายดำกันโดยทั่วไปแล้ว และได้รับฉายาว่าเป็น “#โสมไทย

ลักษณะทั่วไป

สมรรถภาพเพศชาย

กระชายดำจัดอยู่ในกลุ่มพืชล้มลุก อายุหลายปี ซึ่งมีลักษณะเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของกระชายดำ ดังนี้

ลำต้นเทียม อยู่เหนือดินลักษณะกลมแบน โตเต็มที่สูงประมาณ 30 เซนติเมตร ส่วนของแกนกลางลำต้นจะมีลักษณะแข็ง มีกาบใบที่อวบหนานุ่มหุ้มแกนลำต้นไว้ ลักษณะโดยรวมจะอวบอุ้มน้ำ
ใบ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ออกเรียงสลับกันเป็นรูปกรวย ใบเป็นรูปรีแกมรูปไข่ ใบอ่อนมีสีเข้มม่วงอมแดง และสีจะค่อยๆจางไปเป็นสีเขียวเมื่อโตขึ้นและใบใหญ่ขึ้น กาบใบมีสีแดงจางๆ ก้านใบยาวเป็นร่องปลายใบแหลม ขอบใบเรียบมีสีม่วงแดง ใบมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
เหง้าหรือหัว หัวหรือเหง้ากระชายดำที่ดีจะมีลักษณะผิวเรียบมันเปลือกบาง สีน้ำตาลคล้ำ มีข้อเป็นวงใหญ่จำนวนมาก ส่วนสีของเนื้อกระชายดำที่มีคุณภาพดีจะมีสีม่วงถึงม่วงเข้มหรือม่วงดำ เนื้อค่อนข้างละเอียด เส้นใยน้อย มีกลิ่นเฉพาะตัว และหัวสดจะยางสีขาวขุ่นด้วย
ราก รากกระชายดำมีลักษณะเป็นเส้นยาวคดเคี้ยว กระชายดำที่ปลูกในพื้นที่อุดมสมบูรณ์เมื่อลงหัวแก่รากจะสร้างปมขึ้นมาเป็นที่สะสม อาหารเพื่อนำไปเลี้ยงหัว ลักษณะปมจะเป็นรูปวงรีสีขาวนวล เนื้อในละเอียดและอวบน้ำ เรียกส่วนนี้ว่า “รากน้ำนม
ดอก ออกดอกเป็นช่อ โดยจะแทงช่อออกมาระหว่างก้านใบ ดอกมีสีขาวอมชมพู ริมปากดอกสีขาว เส้าเกสรสีม่วง เกสรสีเหลือง แต่ละดอกจะมีใบประดับ 2 ใบสีขาวอมเขียวหรือแดงอมม่วง โคนดอกเชื่อมติดกันเป็นช่อยาว ปลายดอกแยกออกจากกันเป็น 3 กลีบ
ผล มีขนาดเล็ก มีเมล็ดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดของผล ผลเป็นแบบผลแห้ง เมื่อแก่แล้วไม่แตก

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

เชื่อกันว่ากระชายดำที่มีคุณภาพจะต้องปลูกบนพื้นที่ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 500-700 เมตร เจริญเติบโตและลงหัวได้ดีในดินร่วนปนทรายที่อุดมสมบูรณ์สูง ระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบน้ำขัง ชอบสภาพแดดร่มรำไร จึงนิยมปลูกกระชายดำระหว่างแถวของไม้ยืนต้น ต้องการความชื้นในอากาศสูง

การปลูก

การปลูกด้วยเหง้าหรือหัวเป็นวิธีที่นิยมกันมาก เพราะต้นขึ้นง่ายได้ผลเร็ว โดยใช้หัวแก่จัดอายุ 11-12 เดือน มาแบ่งเหง้าหรือหัวลงปลูกปัจจุบันสามารถปลูกกระชายดำได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าปลูกนอกฤดูจะต้องดูแลรักษามากขึ้น
การปลูกในที่ร่มเงาหรือปลูกแซมพืชอื่น ไถพรวนดิน แล้วขุดหลุมปลูกลึกประมาณ 1 หน้าจอบ ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 10-20 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมและคลุกเคล้าให้เข้ากัน
จากนั้นใช้หัวกระชายดำที่กำลังแตกหน่อ แบ่งข้อออก หรือใช้เพียงข้อเดียวก็เพียงพอ หรือจะใช้ทั้งหัวเลยก็ได้ แต่จะเป็นการสิ้นเปลืองพันธุ์ นำเหง้าพันธุ์ที่แบ่งเป็นชิ้นๆวางลงในหลุม แล้วกลบดินพอมิดและรดน้ำให้ชุ่ม

การปลูกในที่โล่งแจ้ง ไถพรวนดินตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นหากดินยังไม่ละเอียดพอ ให้ทำการไถพรวนย่อยดินอีกครั้ง แล้วขุดหลุมปลูกเป็นแถว หลุมลึกประมาณ 1 หน้าจอบ ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมประมาณ 1 กำมือ จากนั้นใช้หัวหรือเหง้าวางปลูกในหลุมแล้วกลบดินพอมิดและรดน้ำให้ชุ่ม หากปลูกแบบยกร่องระยะการปลูกสามารถปลูกให้ถี่ขึ้นได้
การดูแลรักษา หลังจากปลูกหากฝนไม่ตกให้รดน้ำพอชุ่มแต่ไม่แฉะ อย่าให้น้ำขัง หลังจากกระชายดำเจริญเติบโตจนมีใบ 2-3 ใบขึ้นไป ให้กำจัดวัชพืชพรวนดิน และใส่ปุ๋ยคอกประมาณหลุมละ 1 กำมือ หรือใช้ปุ๋ยชีวภาพฉีดพ่นก็ได้ หลังจากนั้นประมาณ 2 เดือน กระชายดำก็จะเริ่มออกดอก จึงกำจัดวัชพืชพร้อมทั้งใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยชีวภาพอีกครั้ง จนกระทั่งเมื่อกระชายดำแก่จัดหรืออายุได้ประมาณ 8-9 เดือน จึงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้

สำหรับสิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษในการปลูกกระชายดำ ได้แก่

1.ไม่ควรใช้ปุ๋ยเคมีในการปลูกกระชายดำโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้หน่อที่เกิดใหม่ยาวและสีของหัวกระชายดำไม่ดำ ทำให้คุณภาพเปลี่ยนไป และที่สำคัญคือ เคมีจะทำให้คุณค่าของตัวยาสมุนไพรลดน้อยลงไป หรืออาจทำให้สารเคมีตกค้างในหัวกระชายดำได้ด้วย
2.ไม่ควรฉีดพ่นสารเคมีฆ่าแมลงหรือยาฆ่าหญ้า เพราะอาจทำให้สารเคมีเหล่านี้เข้าไปสะสมในหัวของกระชายดำได้
3.หลีกเลี่ยงการปลูกกระชายดำใกล้กับพืชสมุนไพรในตระกูลเดียวกัน เพราะอาจเกิดการผสมเกสร ทำให้กลายพันธุ์หรืออาจทำให้สรรพคุณเปลี่ยนไปจากเดิมได้

การเก็บเกี่ยวผลผลิต

หลังจากปลูกประมาณ 8-9 เดือน กระชายดำจะเริ่มแก่ ซึ่งตัวยาจะย้ายลงไปสะสมอยู่ที่หัว โดยสังเกตจากใบคู่แรกจะเริ่มเหี่ยวแห้งและตกลงพื้น แต่ทางที่ดีควรจะรอจนใบแห้งทั้งหมดและต้นล้มจึงขุดหัวขึ้นมา
วิธีการเก็บเกี่ยว โดยขุดหัวขึ้นมาแล้วสลัดดินออก จากนั้นนำไปล้างน้ำเอาดินออกให้หมด แล้วจึงตัดรากที่ติดอยู่กับหัวออกแยกไปเก็บไว้ต่างหาก ซึ่งสามารถนำรากไปทำยาหรือขายได้เช่นกัน หลังจากล้างสะอาดดีแล้วให้นำไปใส่ในตะแกรงหรือกระด้ง แล้วผึ่งแดดไว้ประมาณ 2 วัน หรือเมื่อสังเกตว่าแห้งดีแล้ว จากนั้นนำไปผึ่งลมไว้ประมาณ 3 วัน แล้วจึงนำไปบรรจุขายหรือแปรรูป

สรรพคุณทางยาhttp://s33.postimg.org/aycrr4bxr/image.jpg

กระชายดำมีรสฝาดเย็น กลิ่นหอมฉุน มีสรรพคุณมากมาย ได้แก่ #เป็นยาบำรุงหัวใจ #บำรุงกำลัง เป็นอายุวัฒนะ ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนดี #ขยายหลอดเลือด #แก้ใจสั่นหวิว รักษาแผลสด #แก้โรคในท้อง เช่น ปวดท้อง จุดเสียด ปวดมวนในท้อง แก้บิดมูกเลือด แก้ท้องเดิน รักษาลำไส้ใหญ่อักเสบ
แก้โรคในปาก เช่น ปากเปื่อย ปากแตก แก้โรคซางในเด็ก กระชายดำ" href="http://www.thaiherbweb.com/product-type/3299/กระชายดำสกัด.html">#แก้โรคตาเจ็บ ตาแดง #แก้เบาหวาน แก้ไข้ #แก้ปวดเมื่อย ตามร่างกาย แก้ช้ำใน ขับปัสสาวะ ขับลม

ปัจจุบันกระชายดำนอกจากจะใช้ประกอบเป็นตัวยาโดยตรงแล้วยังนำไปบดเป็นผง บรรจุซองชงน้ำเย็น ดื่มบำรุงสุขภาพ ใช้ดองดื่มเพื่อให้เกิดความกระชุ่มกระชวย ทำลูกอม และที่นิยมที่สุดคือ ทำไวน์กระชายดำ   http://goo.gl/Ub8KGA

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมรรถภาพเพศชาย

ขอบคุณบทความจาก : http://www.thaiherbweb.com/product-type/3299/กระชายดำสกัด.html

สมุนไพร รีแพร์ ฮ๊๋ยุ่ม รากสามสิบ เพื่อความสุขผู้หญิง

#หญ้ารีแพร์ สมุนไพร รักษาโรค

 

                                  หญ้ารีแพร์

        


เมื่อไม่นานมานี้เคยสังเกตุบริเวณสวนหน้าบ้านเหมือนกันว่า หญ้าขึ้นรกมาก จึงต้องถึงเวลาตัดหญ้าซะบ้างแล้ว ตัดไปตัดมาก็เกือบเตียนหมดแล้ว ปรากฎได้ยินเสียงร้องมาแต่ไกล อ้าว!เสียงแม่ร้อง ร้องบอกให้เราหยุดตัดหญ้าเดี๋ยวนี้ ก็ปิดเครื่องทันที ถามไถ่ไปมาได้ความว่า มีต้นหญ้าชนิดหนึ่ง ลักณะใบคล้ายๆใบไผ่ลายใบมีลักษณะเป็นลายริ้วตรงๆ ลำต้นคล้ายหญ้าขนอ่อน แต่ไม่เป็นข้อปล้อง ใบค่อนข้างเยอะ สีออกเขียวสด ไม่เข้ม บางก็ลักษณะคล้ายสีตองนวล ไม่ต้นจะค่อนข้างสูง สูงคล้ายหญ้าขนอ่อน เจ้าต้นที่พรรณนามาซะยาวนี่หละที่แม่ร้องเสียงหลงว่า ห้ามตัดเด็ดขาด เพราะมันคือ หญ้ารีแพร์

 

#หญ้ารีแพร์ ใบคล้ายใบไผ่ ก็เพราะเป็นพืชในตระกูลไผ่ อันที่จริงปลูกง่ายมากๆ สามารถขยายพันธุ์หญ้ารีแพร์ได้ด้วยวิธีการแตกหน่อ หรือ เพาะเมล็ด แต่ถ้าใครโชคร้ายไปเจอหญ้ารีแพร์ต้นตัวผู้แล้วหละก็ จะไม่สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดได้ เพราะหญ้ารีแพร์ตัวผู้ไม่มีเมล์ด ต้องเป็นหญ้ารีแพร์ตัวเมียเท่านั้น ดังนั้นวิธีการขยายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมและง่ายก็คือวิธีการขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ ทั้งต้นตัวผู้และต้นตัวเมีย

 

เจ้าพืชสมุนไพรตัวนี้โด่งดังมาถึงขนาดว่า เพาะขายกันไม่ทัน หรือแม้กระทั่งมีโจรขโมยหญ้ารีแพร์กันเลยทีเดียว และที่ยิ่งไปกว่านั้นมีการขายหญ้ารีแพร์ปลอมด้วย ดังนั้นหากสาวๆท่านใดต้องการมีหญ้ารีแพร์ไว้ในครอบครองก็ต้องสนใจคุณลักษณะเด่นเฉพาะตัวที่สามารถแสดงอัตลักษณ์ หรือ ความเป็นตัวตนของหญ้ารีแพร์ได้ ลักษณะของหญ้ารีแพร์ก็ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จดจำก่อนซื้อหามาครอบครอง

 

สรรพคุณของหญ้ารีแพร์ รากสามสิบที่เราควรรู้ อาทิ

 

ช่วยทำให้ช่องคลอดกระชับ โดยเฉพาะคุณแม่ทั้งหลายที่ผ่านการมีบุตรมาแล้ว

 

เป็นพืชสมุนไพรอีกตัวหนึ่งที่เหมาะแก่การนำไปอบ อาบ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ผิวพรรณ คุณสาวๆจะเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล ทำให้บาดแผลหายเร็ว ที่สำคัญทำให้มดลูกเข้าอู่ได้ด้วย

 

ในหญ้ารีแพร์มีสารสำคัญคือ ซิลิกา โดยสารชนิดนี้เป็นแหล่งกำเนิดของคอลลาเจน ทำให้เราดูเด็กไม่แก่ก่อนวัย

 

หญ้ารีแพร์สามารถนำมาทานได้ คือ เด็ดยอดไปลวกจิ้มน้ำพริก หรือ นำใบไปคั้นทำน้ำดื่มได้ ก็จะช่วยในการขับปัสสาวะ รวมทั้งยังช่วยให้ #ผิวชุ่มชื้น ดูเปล่งปลั่ง

หญ้ารีแพร์ ฮี้ยุม

 

สำหรับคุณสมบัติที่ทำให้หญ้ารีแพร์ รากสามสิบโด่งดังถึงขนาดต้องขโมยกันขาย ก็คือ #ช่วยกระชับช่องคลอด #ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ แต่ในการนำมาใช้ก็ต้องรู้จักวิธีใช้ให้ถูกต้องด้วย โดยสามารถทำได้ทั้งการอบไอน้ำ และ การรมควัน

 


การอบไอน้ำ เราก็ใช้หญ้ารีแพร์ นำไปต้มรวมกันกับสมุนไพรตัวอื่นๆ โดยหากจะเน้นคุณสมบัติของหญ้ารีแพร์ก็ให้เลือกผสมหญ้ารีแพร์ในสัดส่วนที่มากหน่อย โดยก่อนที่จะอบไอน้ำ ควรอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่นก่อนแล้วจึงอบตัวด้วยสมุนไพรต่อ แต่ควรรักษาอุณหภูมิในการอบไม่ให้ร้อนจนเกินไป จนกระทั่งหายใจไม่ออกเพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ซึ่งวิธีการนี้ก็จะช่วยให้ #ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูเต่งตึงมีน้ำมีนวล ไม่แห้งกร้าน อีกทั้งยังทำให้มดลูกเข้าอู่อีกด้วย

 


การรมควัน วิธีการนี้เป็นวิธีการที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ รุ่นย่าแล้ว โดยให้เรานำหญ้ารีแพร์ที่มีอายุ 45 วันขึ้นไปมาตากแดดก่อน แต่ไม่ได้ตากให้แห้งแค่พอให้รู้ว่า หญ้ารีแพร์ผ่านการตากแดดมาแล้ว จากนั้นให้ตั้งเตาถ่าน โดยถ่านหรือไม่ที่ใช้ต้องไม่ติดไฟ โดยจะต้องมีแต่ควันเท่านั้น แล้วให้นำไปวางไว้ใต้เก้าอี้ที่เจาะรู้ตรงกลางเพื่อให้ควันพุ่งขึ้นมาโดยตรง คุณผู้หญิงพร้อมแล้วก็นั่งไปที่เก้าอี้เจาะรู้ไปเลย ซึ่งจะเป็นการรมควันเฉพาะจุด โดยความร้อนที่ออกมาจากเตาในการเผาหญ้าจะต้องไม่ร้อนเกินไปเพราะอาจเป็นอันตรายได้ อีกทั้งในการรมควันเราจะต้องไปสูดดมควันเข้าไปโดยตรงเพราะจะส่งผลอันตรายต่อตัวเองได้ โดยในการรมควันควรใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที วิธีนี้จะช่วยให้ช่องคลอดกระชับได้เร็วขึ้น จะช่วยลดอาการอักเสบของแผล #ช่วยลดบวม #ช่วยสมานแผลให้เร็วขึ้น และควรทำอย่างน้อย 2-5 ครั้ง ก็จะเห็นผลเร็วทันตา หรือถ้าไม่อยากยุ่งยากสมัยนี้ร้านสปาต่างๆก็มีหญ้ารีแพร์ที่เป็นส่วนหนึ่งในการอบตัวหรือทำสปาแล้ว สาวๆหลังคลอดที่ต้องการอยู่ไฟก็สามารถใช้หญ้าชนิดนี้ได้ โดยร้านสปาก็จะสามารถจัดให้ได้

 

โดยแพทย์แผนไทยได้ออกมาแจ้งแล้วว่าหญ้ารีแพร์ไม่ได้มีอันตรายใดๆต่อร่างกาย แต่สิ่งที่จะเป็นอันตรายซึ่งก็มีข่าวมาแล้วก็คือ หญิงสาวอยากสวย ตายขณะที่อบตัวด้วยสมุนไพร สาเหตุคือ ขาดอากาศหายใจ ถ้าอยากสวยแต่ไม่ได้ชีวิตกลับไปแบบนี้ก็ไม่คุ้มกันเลย

 

และด้วยคุณสมบัติในการสมานบาดแผล การลดบวม อักเสบของหญ้ารีแพร์นั้น ก็อาจเป็นแนวทางในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากหญ้ารีแพร์เมื่อให้สาวๆสามารถนำหญ้ารีแพร์ไปใช้ได้อย่างสะดวกมากขึ้นได้ โดยไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของครีม ของเครื่องดื่มสมุนไพร หรือน้ำมันทาตัวนวดตัวในธุรกิจสปาได้laughing

 

#รากสามสิบหรือสาวร้อยผัว #สมุนไพรรีแพร์ #กระชับภายในสตรี

รากสามสิบ

 

 

"สาวร้อยผัว" เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีการศึกษวิจัยกันมากพอสมควร ในด้านการศึกษาวิจัยในห้องทดลองพบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา คือ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา คลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ แก้การอักเสบ แก้ปวด มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยับยั้งเบาหวาน เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ ลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันโลหิตสูง ขับน้ำนม ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ยับยั้งพิษต่อตับ

 


ในตำราอายุรเวทใช้รากสามสิบเป็นสมุนไพรหลักสำหรับบำรุงในผู้หญิง ในการทำให้ผู้หญิงกลับมาเป็นสาว นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาอื่นๆ ของผู้หญิงเช่น ภาวะประจำเดือนไม่ปกติ ปวดประจำเดือน ภาวะมีบุตรยาก ตกขาว ภาวะอารมณ์ทางเพศเสื่อมถอย ภาวะหมดประจำเดือน ( menopause )

 

#รากสามสิบ หรือ #ศตวารี ถือเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้หญิงช่วยในการสร้างสมดุล แก่ระบบฮอร์โมนเพศหญิง

 

ศตวารีเป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติหลัก สำหรับบำรุงโลหิตสตรี และฟื้นฟูความกระชับของช่องคลอด บำรุงมดลูก ไข่ และเตรียมอวัยวะเพศหญิงให้มีความพร้อมต่อการตั้งครรภ์ ป้องกันการแท้งลูก อีกทั้งยังช่วยบำรุงน้ำนม
ประโยชน์ของ ศตวารี มีมากมายเพราะประกอบด้วย ไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนในผู้หญิง มีความสำคัญเพื่อคงความสาวสำหรับผู้หญิง ในทางเภสัชมีการแนะนำว่าพืชที่ให้ เอสโตรเจน มีผลดีกว่าการใช้ตัวยาปรับสมดุลฮอร์โมน เนื่องจากไม่มีผลข้างเคียงในทางลบ
สำหรับผู้ชาย เป็นยาชูกำลังเช่นเดียวกับโสมเนื่องจาก รากสามสิบ เป็นสมุนไพรธรรมชาติที่มี สรรพคุณบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย ชะลอความชรา

 


ชาวฮินดูเรียกสมุนไพรชนิดนี้ว่า "ราชินีแห่งสมุนไพร" เนื่องจากช่วยส่งเสริมความรัก และ กระชับความสัมพันธ์ให้ชีวิตคู่

 

** ปัจจุบันมีสารสกัด ด้วยน้ำของรากสามสิบ จากอินเดีย ไปจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ในลักษณะเป็น Dietary supplement กล่าวคือ สามารถขายได้ทั่วไปอย่างอิสระไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์


เหตุผลที่ สาวๆนิยมใช้ และใช้อย่างต่อเนื่อง

 


** ช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้แฟนไม่เบื่อ แทบไม่รุ้เลยว่าเราเคยมาก่อนรึเปล่า เหมือนเป็นครั้งแรกของเรา
**ช่วยฆ่าเชื้อโรคในช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดสะอาด ไม่เป็นกังวลเรื่อง กลิ่นอับ อีกต่อไป
**เป็นสมุนไพรธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมี ไม่ตกค้าง ไม่ส่งผลเสียในระยะยาว
**ราคาไม่แพง เพราะเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกได้ในประเทศไทย ภูมิปัญญาไทยๆ ไม่เสียค่านำเข้าใดๆ

 

และเพื่อให้ง่าย และสะดวกในการบริโภคสมุนไพร แต่ยังคงไว้ซึ่งสรรพคุณหลักในสมุนไพร จึงทำเป็นแคปซูลซึ่งนำเฉพาะส่วนที่เป็นราก ซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณค่า และสรรพคุณทางยามากที่สุด มาผ่านกระบวนการอบ บด และอัดใส่แคปซูล

 

 

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : หญ้ารีแพร์ ฮี้ยุม

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : รากสามสิบหรือสาวร้อยผัว.html">http://www.thaiherbweb.com/product/206430/รากสามสิบหรือสาวร้อยผัว.html

รากปลาไหลเผือกแท้100% บำรุงกำลังสมุนไพรเพื่อบุรุษเพศ Thaiherbweb

 ปลาไหลเผือก

 

ปลาไหลเผือก หรือปลาไหลเผือกใหญ่ ชื่อวิทยาศาสตร์: Eurycoma longifolia เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ Simaroubaceae ชื่ออื่นๆ กรุงบาดาล (สุราษฎร์ธานี) คะนาง ชะนาง (ตราด) ตรึงบาดาล (ปัตตานี) ตุงสอ แฮพันชั้น (ภาคเหนือ) เพียก (ภาคใต้) หยิกบ่อถองหรือหยิกไม่ถึง เอียนด่อน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ไหลเผือก (ตรัง)เป็นไม้ไม่ผลัดใบ รากกลมโต สีขาว สีขาวนวล รากที่มีอายุหลายปีจะมีความยาวมาก อาจยาวมากกว่า 2 เมตร ลำต้นเรียบสีน้ำตาลเทา ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว ดอกช่อออกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีเขียวอมน้ำตาล ปลายกลีบแดงอมเขียว กลีบดอกสีแดงอ่อนเกสรตัวผู้และตัวเมียสีแดงอ่อน ยื่นยาวกว่าดอก ผลเดี่ยว ทรงกระบอกกลมสั้น ผลแก่แล้วแตก ผลอ่อนสีเขียว แก่แล้วเป็นสีส้ม

#ปลาไหลเผือกใหญ่ เป็นพืชที่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร ใช้ รากถ่ายพิษต่างๆ ถ่ายพิษไข้พิษเสมหะ และโลหิต แก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย ตัดไข้ทุกชนิด แก้ลม แก้วัณโรคระยะบวม ขับเหงื่อ ขับพยาธิ แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ #ความดันเลือดสูง อัมพาต ขับถ่ายน้ำเหลือง แก้ท้องผูก ใช้รากเป็นส่วนผสมของยาบำรุงกำลัง นำรากผสมกับรากโลดทะนงแดง และพญาไฟ ฝนน้ำดื่ม แก้ไข้ ใช้เลิกเหล้า รากผสมกับรากย่านางแดง และพญายา ฝนน้ำกินขับพิษ ในตำรายาโบราณ เป็นส่วนผสมของยาสามราก ที่ใช้ขับพิษ และแก้อาการลงแดงจากการติดยาเสพติด เป็นส่วนผสมของยาประสะเหมือดคน และยาจันทน์ลีลา และยาแก้ไข้ห้าราก  ชาวโอรังอัสลีในรัฐเประ ประเทศมาเลเซียนำรากไปต้มกับชาใช้กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ

ในทางเภสัชวิทยา ปลาไหลเผือกใหญ่ มีฤทธิ์ลดไข้ ต้านมาลาเรีย มีฤทธิ์กระตุ้นความรู้สึกทางเพศของหนูตัวผู้ ลดความวิตกกังวล เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง ต้านการก่อเกิดเนื้องอก ลดน้ำตาลในเลือด สารออกฤทธิ์ที่สำคัญได้แก่ สารกลุ่ม quassinoids เช่น eurycomalactone eurycomanol eurycomanone ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาเลเรียในหลอดทดลอง

สรรพคุณของสมุนไพร รากปลาไหลเผือก 100%

  • ออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone)

  • ช่วยเพิ่มจำนวนตัวสเปิร์มในน้ำอสุจิ บำรุงสเปิร์มและไขกระดูก

  • ชะลอการหลั่ง แก้ปัญหาอาการหลั่งเร็ว

  • บำรุงกำลัง บำรุงร่างกายให้แข็งแรง

  • เสริมสร้างฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth hormone) ซึ่งจะช่วยในการชะลอความเสื่อมหรือ ชะลอความชราให้กับร่างกาย

  • เสริมสมรรถภาพทางเพศให้สมบูรณ์ โดยช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวดีขึ้น ทำให้เกิดการตื่นตัวทางเพศ ทำให้มีความคงทนในการมีเพศสัมพันธ์ได้นานขึ้น

  • เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือด

  • ป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง,โรคเบาหวาน,ลดน้ำตาลในเลือด, บำรุงไต

  • ลดไข้ ลดอาการเมื่อยล้า เพิ่มพลังงาน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

  • ประกอบด้วย Superoxide dimutase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ

  • ลดภาวะวัยทองในผู้ชาย และหญิง, แก้ปวดมดลูกและตกขาวในผู้หญิง

  • มีคุณสมบัติในการต่อต้านเซลล์มะเร็งปอดและมะเร็งเต้านมได้ มีฤทธิ์ต้านเชื้อมาลาเรีย

  • ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดเอว แก้ปวดกระดูก

  • ใช้ในการรักษาอาการข้อเสื่อมรูมาติก, เกาต์ และอื่นๆ เช่น อาการปวดข้อในหญิงวัยหมดประจำเดือน

ที่เรียกสมุนไพรชนิดนี้ว่า “ปลาไหลเผือก” เนื่องจากรากของสมุนไพรชนิดนี้มีลักษณะเหมือนปลาไหลเผือก คือมีสีขาวยาวๆ เหมือนปลาไหลเผือก และยังมีรากเดียว บางครั้งจึงมีคนเรียกว่า พญารากเดียว ส่วนรากปลาไหลเผือก ถ้ามีอายุหลายปี จะมีความยาวมาก บางครั้งยาวมากกว่าความสูงของคนเสียอีก จนทำให้บางท้องที่เรียกปลาไหลเผือกว่า #ตรึงบาดาล

 

      ประวัติศาสตร์การใช้ประโยชน์เพื่อปรับปรุงสมรรถภาพ และเสริมพลังชีวิตของท่านชาย มานานกว่า ๑,๐๐๐ ปี ปัจจุบันด้วยการเจริญเติบโตของเทคโนโลยี โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์การแพทย์ #ตงกัทอาลี ได้ถูกวิเคราะห์ วิจัย จากทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ถึงบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างพลังชีวิตท่านชาย เพิ่มฮอร์โมนเพศ เสริมสร้าง และปรับปรุงสมรรถภาพ เพิ่มภูมิต้านทาน ลดสภาวะวัยทอง (ใช้ได้ผลทั้งชาย และหญิง) ฯลฯ

      การศึกษาวิจัยสมัยใหม่พบว่ารากปลาไหลเผือกมีสรรพคุณ ในการเพิ่มความแข็งแรง ของนักกีฬาได้อย่างชัดเจนด้วย

 

      ยาสมุนไพรพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี ใช้

      - รากปลาไหลเผือก ต้มน้ำดื่ม แก้ไข้ ฝนน้ำดื่ม แก้ปวดท้อง

      - รากปลาไหลเผือก นำไปเข้ายาบำรุงกำลัง โดยนำรากปลาไหลเผือก ผสมกับรากโลดทะนงแดง และพญาไฟ ฝนน้ำดื่ม แก้ไข้ ใช้เลิกเหล้า รากปลาไหลเผือก ผสมรากย่านางแดง และพญายา ฝนน้ำกินขับพิษ รากปลาไหลเผือก ผสมกับ รากโลดทะนงแดง และพญาไฟ ฝนน้ำกิน ทำให้อาเจียน ใช้เลิกเหล้า

ตำรายาไทย

      ใช้ รากปลาไหลเผือก รสขม เบื่อเมาเล็กน้อย ถ่ายพิษต่างๆ ถ่ายฝีในท้อง ถ่ายพิษไข้พิษเสมหะ และโลหิต แก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย ตัดไข้ทุกชนิด แก้ลม แก้วัณโรคระยะบวม ขับเหงื่อ ขับพยาธิ แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ ความดันเลือดสูง อัมพาต ขับถ่ายน้ำเหลือง แก้ท้องผูก

 

      นอกจากนั้นยังใช้เป็นส่วนประกอบในตำรับยาโบราณ ได้แก่

 

  1. “ยาสามราก” (ประกอบด้วยรากพืช 3 ชนิดคือ รากโลดทะนง รากฮังฮ้อน และรากปลาไหลเผือก) ทำให้อาเจียน และถ่าย ใช้ล้างพิษยาเสพติด ใช้บำบัดผู้ที่ติดยาเสพติด และแก้อาการลงแดงจากยาเสพติด โดยยานี้จะทำให้อาเจียน และถอนพิษยา

  2. เข้าตำรับ “ยาประสะเหมือดคน” แก้ไข้ แก้ร้อนใน นอกจากนั้นยังใช้รากปลาไหลเผือก มาผสมหญ้าแห้วหมู และรากผักติ้ว ต้มน้ำดื่มแก้ปัสสาวะขัด

  3. เป็นส่วนประกอบใน “ตำรับยาจันทน์ลีลา” ใช้รักษาไข้ตัวร้อน ไข้เปลี่ยนฤดู

  4. และตำรับ “ยาแก้ไข้ห้าราก” ช่วยแก้ไข้ แก้พิษไข้

 

ปลาไหลเผือกในการบำรุงกำหนัด    

 

ปลาไหลเผือก


     ปลาไหลเผือกกระตุ้นให้อัณฑะผลิตเทสทอสเตอร์โรนมากขึ้นด้วยตัวเอง โดยการส่งสัญญาณไปที่ระบบประสาทส่วนกลาง และต่อมพิททุอิทารี่ ไม่ใช่เป็นการให้ฮอร์โมนสังเคราะห์ ร่างกายเราสามารถรับเอาเทสทอสเตอร์โรนสังเคราะห์ได้ แต่ไอ้เจ้าฮอร์โมนสังเคราะห์จะเป็นตัวค่อยขัดขวางระบบต่างๆ ทางเพศ เป็นเหตุให้เจ้าโลก และอัณฑะของเราเหี่ยวเฉาลง เพราะว่าเมื่อเทสทอสเตอร์โรนมีระดับ(เทียม)สูงขึ้น ฮอร์โมนเพศ( แอนโดเจน และ เอสโทรเจน) จะส่งสัญญานไปให้ร่างกายสั่งลดระดับ หรือหยุดการผลิตเทสทอสเตอร์โรนเอง ของร่างกายลง เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “negative feedback” หรือ “การสนองตอบด้านลบ” ปลาไหลเผือกจะขัดขวางปฏิกิริยานี้ไม้ให้ไปยังระบบประสาทส่วนกลาง และต่อมพิททุอิทารี่ รับรู้เพื่อเหตุผลที่ต้องการให้ร่างกายยังคงผลิต และยกระดับเทสทอสเตอร์โรน ทำให้อัณฑะสามารถผลิตเทสทอสเตอร์โรนได้เต็มหน้าที่ และขีดความสามารถ เจ้าโลก และอัณฑะของท่านก็จะมีการเพิ่มขนาดที่ใหญ่โตขึ้น (ยืนยันว่าจริง)

 

การใช้ในรูปแบบของผงสมุนไพรแคปซูล

 

เพื่อให้กินง่าย ใช้ในการบำรุงสมรรถภาพทางเพศ  บำรุงฮอโมนเพศ

 และอื่นๆ เช่นปวดข้อในหญิงวัยหมดประจำเดือน ใช้บำรุงเซ็กซ์ เสริมสมรรถภาพทางเพศ และช่วย

เพิ่มจำนวนตัวสเปิร์มในน้ำอสุจิ เพิ่มความแข็งแรงและความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวของตัว

สเปิร์ม นอกจากนี้ ยังช่วยในการรักษาโรคต่างๆ โดยเข้าไปเสริมสารต่างๆที่มีผลต่อโรคนั้นเช่น

กระเพาะอาการอักเสบ ลดไข้ หอบหืด สร้างสมดุลให้กับฮอร์โมนเพศหญิง

หมายเหตุ

ซึ่งแนะนำให้กินตอนเช้า-เย็นก่อนอาหาร หรือก่อนนอน  ครั้งละ1- 2 แคปซูล กับน้ำอุ่น

หรือ  กินกับน้ำสไปรท์  จะได้ผลเร็วมาก

 

รากปลาไหลเผือก

                                   หมามุ่ย

 

 

ไทยรัฐ วันที่ 18 มิย. 2559

 

เตือน นี่เป็นสาเหตุที่ร้านไม่จำหน่ายสินค้าประเภทนี้เลย เพราะหนึ่งร้านระมัดระวังเรื่องพวกนี้ให้ท่าน และสองให้ซื้อสมุนไพรจากร้านที่มีความรู้ด้านนี้จริงๆ อย่าหลงซื้อจากมือสมัครเล่น สูตรบ้าบอแปลกๆที่ไม่มีในตำรา เอามาผสมกัน

 

เคยเห็นสมุนไพรเช่นตรีผลา จตุผลา โสม ย่านาง หญ้าฮี๋ยุ่ม รากสามสิบ ฯลฯ ขายถุงหรือขวดละ 75 – 85 บาทไหมครับ บรรจุ 100 แคปซูล ท่านคิดว่าเขาเอาอะไรให้ท่านทาน สมุนไพรมีราหรือเปล่า หรือสมุนไพรผสมแปลก เป็นสูตรคิดเอง เอาของที่คิดว่าดีมาผสมแล้วคิดว่ามันจะดีเป็นสองเท่า สามเท่า แต่ไม่่ใช่นะครับ ยาไทยไม่ใช่เอาอะไรมาผสม มันอาจกลายเป็นยาทำลายตับ ไต ยาพิษ อย่าเลยครับ เป็นมะเร็งมันทรมานนะครับ เงินทองต้องรักษามหาศาล ทานของที่มั่นใจเถิดครับ เป็นแล้วมันแก้ไขไม่ได้นะครับ แวะที่นี่มีแต่ของไม่อันตราย

 

 

 

 

 

 



เครดิต : http://www.thaiherbweb.com/product/528387/รากปลาไหลเผือก-สมุนไพรไวอากร้า.html