#สมุนไพรรักษามะเร็ง
มีสมุนไพรไทยหลายชนิดที่มีสรรพคุณในการป้องกัน และรักษาโรคมะเร็งได้ ดังนั้น ในระยะหลังมานี้ จึงมีผู้ป่วยมะเร็งหลายรายหันมาพึ่งสมุนไพรไทยเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ในการรักษาโรค
มะเร็ง คือ เซลล์เนื้อร้ายที่เจริญเติบโตผิดปกติ แทรกซึมเข้าไปในเซลล์ดีที่อยู่โดยรอบ เมื่อเข้าไปในเส้นเลือดและน้ำเหลือง แล้วจะกระจายไปในอวัยวะต่างๆ ทำให้เนื้อเยื่อของอวัยวะนั้นเสื่อมไป
ส่วนสาเหตุของโรคมะเร็งเกิดได้ 3 ทาง คือ
-เกิดจากจากทางพันธ์กรรม
-เกิดจากการได้รับสารก่อมะเร็ง เช่น สารเคมี รังสี ไวรัส สารพิษจากสิ่งแวดล้อม
-เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมและการโภชนาที่มากไป น้อยไม่ ไม่พอดี
เมื่อสารก่อมะเร็งเข้าไปในร่างกายจะไปจับยีนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น เกิดการกลายพันธุ์ หรือกระตุ้นยีนมะเร็งให้แสดงออกมากขึ้น โดยให้เซลล์ปกติ
เปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งแล้วแบ่งตัวไปเรื่อยๆ ไม่หยุด จนเป็นก้อนมะเร็งใหญ่
โรคมะเร็งสามารถป้องกันได้
ร่างกายคนเรามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น แต่เราไม่ป่วยเป็นมะเร็งได้เพราะ ร่างกายมีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่งด้วยระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถต่อสู้กับ มะเร็งได้ ดังนั้น
#ระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทำลายด้วยวิธีต่างๆ
เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ได้แก่ การกินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ อาหารไม่สะอาดเต็มไปด้วยสารพิษ สารก่อมะเร็ง การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ และการ
ไม่ออกกำลังกาย
การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
-การรับประทานอาหารที่มีเส้นใย (Fiber) มาก อาหารที่มีวิตามินเอ ซี อี สูง เช่น กระเทียม หัวหอม ผักใบเขียว ผัก ผลไม้ ตลอดทั้ง #อาหารสมุนไพร เครื่อง
ประกอบอาหารต้องปลอดเชื้อราและสารพิษ
-ลด อาหารไขมันสัตว์
-เลิก อาหารกระป๋อง อาหารที่มีสีสังเคราะห์และสารเคมี เช่น สารกันปูด สีที่ไม่ใช่สีผสมอาหาร
-เลี่ยง อาหารปิ้ง ย่าง เผา อบ รมควัน
ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรรับประทานผักผลไม้เพราะผักผลไม้หลายชนิดมีคุณสมบัติเป็น ตัวกำจัดอนุมูลอิสระ (แอนตี้ออกซิแดนท์) และสารฆ่ามะเร็ง ในวันหนึ่งๆ ควร
ได้ผัก 30% ผลไม้ 10% ถั่วและปลา 10% และข้าวกล้อง หรือ มัน เผือก 50%
สมุนไพรรักษามะเร็ง
#เห็ดหลินจือ
นพ. บรรเจิด ตันติวิท ได้กล่าวถึงเห็ดลินจือสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ จากหนังสือ "หลิงจือ กับ ข้าพเจ้า" ซึ่งได้พูดถึงเหตุผลว่าทำไมเห็ดหลินจือถึงรักษาโรค
มะเร็งได้
ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าทำไมถึงไม่เป็นมะเร็ง เหตุผลที่เราไม่เป็นมะเร็งก็เพราะ
-ร่างกายเรามี #ระบบภูมิคุ้มกัน
-ร่างกายเรามีระบบแอนติออกซิแดนต์ (Antioxidants) ที่สามารถต่อสู้ ขจัดอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ DNA เกิดการเปลี่ยนแปลง
มารู้จักอนุมูลอิสระสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งกันก่อนว่า คืออะไร
#อนุมูลอิสระ เป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียร เป็นของเสียที่ร่างกายต้องกำจัด ซึ่งอนุมูลอิสระเกิดจากการที่ร่างกายใช้ออกซิเจนเป็นเชื้อเพลิงในการเผาผลาญ และเกิด
จากปัจจัยอื่น เช่น ยา อาหาร บุหรี TV โทรศัพท์มือถือ อื่นๆ
เมื่อเซลล์ถูกโจมตีโดยอนุมูลอิสระ จะกลายเป็นของเสีย และที่สำคัญ DNA ที่ถูกอนุมูลอิสระโจมตีอาจกลายพันธุ์ เป็นเซลล์มะเร็งได้ ในร่างกายเราจะมีแอนติ
ออกซิแดนต์ช่วยในการขจัดอนุมูลอิสระ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นความสามารถในการผลิตแอนติออกซิแดนต์ น้อยลง ในขณะที่อนุมูลอิสระกลับมากขึ้นเนื่องจาก
ร่ายกายเผาผลาญไม่สมบูรณ์
เกิดเป็นของเสียมากขึ้น ด้วยสาเหตุนี้เราถึงเป็นมะเร็งเมื่ออายุมาก
เห็ดหลินจือช่วยได้ เพราะ เห็ดหลินจือเป็นแอนติออกซิแดนต์สามารถขจัดอนุมูลอิสระได้ ลดการเกิดของมะเร็ง ป้องกันโรคมะเร็งโดยปกติผนังเซลล์ในร่างกาย
เราจะมีศักย์ไฟฟ้า สังเกตง่ายๆตอนแพทย์ตรวจคลื่นหัวใจ คลื่นสมอง จะมีกราฟแสดงการขึ้นลง และศักย์ไฟฟ้าของเซลล์แต่ละอวัยวะจะมีคลื่นไม่เหมือนกัน
เซลล์ที่เกิดการอับเสบ หรือถูกอนุมูลอิสระก่อกวน ก็จะมีศักย์ไฟฟ้าที่แปรปรวนผิดไป รวมถึงอารมณ์และความเครียดด้วยที่ทำให้ ศักย์ไฟฟ้าแปรปรวน สิ่งที่น่า
สนใจก็คือ เซลล์ที่เป็นมะเร็งแล้วจะมีค่าศักย์ไฟฟ้าสูง เพราะเซลล์มะเร็งโตเร็วต้องการพลังงานมาก
การที่ค่าศักย์ไฟฟ้าสูงทำให้เกิดปัญหาว่า เมื่อเม็ดเลือดขาวจะเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็ง เจอศักย์ไฟฟ้าสูงทำให้หมดสภาพ ไม่สามารถเอาชนะเซลล์มะเร็งได้ ด้วย
เหตุนี้การรักษามะเร็งด้วยวิธีการกระตุ้นภูมิคุ้มกันอย่างเดียวจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จ
เห็ดหลินจือช่วยได้ คือ เห็ดหลินจือช่วยทำให้ศักย์ไฟฟ้าของเซลล์มะเร็งต่ำลง ทำให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปต่อสู้ทำลายเซลล์มะเร็งได้ เพราะ เห็ดหลินจือมีสารเยอ
มาเนียมที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและมีโครงสร้างที่ สามารถจับกับอิเล็กตรอนทำให้ศักย์ไฟฟ้าบริเวณเซลล์มะเร็งต่ำลง เมื่อศักย์ไฟฟ้าของเซลล์มะเร็งต่ำลง
ทำให้เม็ดเลือดขาวต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง ได้ เพราะเหตุนี้เห็ดหลินจือจึงสามารถรักษาโรคมะเร็งโดยใช้ระบบภูมิคุ้มของร่าง กายได้
เห็ดหลินจือช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง และให้ภูมิคุ้มกันเป็นตัวกำจัดมะเร็งเอง เนื่องจาก เห็ดหลินจือมีสารเยอรมาเนียมที่ช่วยเสริมสร้าง
ภูมิคุ้มกันแล้วยังมีสารโพลี แซคคาไรด์อีกตัวที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และยังโปรตีน Lz-8 ในเห็ดหลินจือที่ช่วยปรับภูมิคุ้มกันให้ทำงานเป็นปกติไม่
ผิดเพี้ยน
สรุป เห็ดหลินจือช่วยรักษาโรคมะเร็งได้เพราะ
-เห็ดหลินจือเป็นแอนติอ็อกซิแดนต์ที่ดี สามารถขจัดอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง
-เห็ดหลินจือช่วยทำให้ศักย์ไฟฟ้าของเซลล์มะเร็งต่ำลง ทำให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปต่อสู้ทำลายเซลล์มะเร็งได้
-เห็ดหลินจือช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในแก่ร่างกายปรับ สมดุลไม่ให้ทำงานผิดเพี้ยน เมื่อภูมิคุ้มกันแข็งแรงก็สามารถต่อสู้กับเชื้อมะเร็งได้
-การทำคีโม นอกจะทำลายเซลล์มะเร็งแล้ว เซลล์ปกติบริเวณรอบข้างก็ถูกทำลายไปด้วย ซึ่งต่างจากเห็ดหลินจือ ที่เห็ดหลินจือทำงานผ่านระบบภูมิคุ้มกัน คือ
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงทำงานเป็นปกติไม่ผิดเพี้ยน แล้วให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเรานี้เป็นตัวจัดการกับเซลล์มะเร็งเอง ทำให้เซลล์ปกติอื่นไม่โดนทำลาย
เพราะภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถแยกแยะได้ว่าเซลล์ไหนเป็นเซลล์ดีหรือเซลล์ ไม่ดี
-การทำคีโม มีผลข้างเคียงทำให้เม็ดเลือดขาวลดลง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเม็ดเลือดขาวแห้ง เพราะยาที่ใช้ทำคีโมมีพิษมาก เห็ดหลินจือสามารถช่วยกระตุ้น
ให้ไขกระดูกผลิตเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้นได้ จึงลดผลข้างเคียงของการทำคีโมได้บ้าง
-คนที่เป็นโรคมะเร็ง มักจะทานยาแผนปัจจุบันเยอะ รวมถึงทำคีโมด้วย ซึ่งก็เป็นที่รู้กันดีว่าการทานยาแผนปัจจุบันมาก เป็นเวลาติดต่อกัน มีผลข้างเคียงคือ ตับ
โดนทำลายโดยเฉพาะการทำคีโมทำให้ตับเสื่อม เห็ดหลินจือช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพตับ ทำให้ตับทำงานได้ดีขึ้น
-เห็ดหลินจือมีความปลอดภัยสูง จัดเป็นยาบำรุงร่างกาย ยาอายุวัฒนะ ทานติดต่อกันได้เป็นเวลานาน
#มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก ช่วยในการยับยั้งเชื้อมะเร็ง
สภาวิจัยแห่งชาติสนับหนุนนักวิจัยจากธรรมศาสตร์ ซึ่งค้นพบว่าสารสกัดจากสมุนไพร 3 ชนิดคือ มะขามป้อม สมอไทยและ สมอพิเภก สามารถหยุดมะเร็งและ
ยับยั้งเซลล์ร้ายโดยทดลองฆ่าเซลล์มะเร็งที่เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการวิจัยได้ผลดี แต่ยังไม่ได้ศึกษาในสัตว์และผู้ป่วยจริง เผยผลวิจัยปูทางผลิตเป็นยาสยบ
มะเร็งสำคัญที่คร่าชีวิตคนไทย ทั้งมะเร็งตับ ปอด ปากมดลูกและอื่นๆ
ผศ.ดร.สีหณัฐ ธนาภรณ์ สาขาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก สารสกัดสมุนไพร 3 ชนิดนี้
สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตและสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ การทดลองใช้ระบบมาตรฐานของสหรัฐ โดยเพาะเลี้ยงเซลล์ในจานหลุมและนำสารสกัดมาทดสอบ
ทีละชนิด พบว่ามะขามป้อม สมอไทยและสมอพิเภก สามารถช่วยลดสารก่อมะเร็ง ทั้งยังฆ่าเซลล์มะเร็งได้ดีอีกด้วย
ด้าน ดร.ชาตรี งามกิติเดชากุล สาขาชีวเคมี สถานวิทยาศาสตร์ฯ หนึ่งในทีมวิจัย เสริมว่า เซลล์มะเร็งที่ทีมวิจัยนำมาทดสอบด้วยการเพาะเลี้ยง ได้แก่ เซลล์
มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก รังไข่ ลำไส้และเต้านม ผลสรุปที่แน่ชัดว่า มะขามป้อม สมอพิเภกและสมอไทย มีฤทธิ์ยับยั้งและสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้
อย่างมีประสิทธิภาพ 100% โดยมีหลักฐานการทดลองยืนยันถึง 6 ขั้นตอน จากนั้นจะนำไปทดสอบในเชิงคลินิก หรือทดสอบในคนต่อไป
#หญ้าปักกิ่ง หรือ #หญ้าเทวดา สมุนไพรรักษามะเร็ง
ภ.ญ.ปัทมา สุนทรศารทูล อธิบายสรรพคุณว่า หญ้าปักกิ่ง หรือในชื่อภาษาจีนว่า เล้งจือเช่า หรือหญ้าเทวดา เป็นยามีรสจืด เย็น มีสรรพคุณในการยับยั้งโรค
มะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งในคอ มะเร็งตับ มะเร็งมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว การตรวจวิเคราะห์ในห้องแล็บพบว่า ลำต้นหญ้าปักกิ่งมีสารกลุ่มกลัยโคสพิงโกไล
บิตส์ เป็นสารต้านมะเร็งระยะต้น ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เช่น โรคมะเร็ง #เส้นเลือดหัวใจตีบ #โรคภูมิแพ้ โรคความดันและเบาหวาน สามารถใช้
รักษาร่วมกับยาแผนปัจจุบันได้ ช่วยสมุนไพรรักษาโรค" href="http://thaiherbwebsite.blogspot.com">ลดอาการข้างเคียงจาการฉายแสง ในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องฉายแสง
ประวัติการรักษาโรคมะเร็งในประเทศนั้น ภญ.ปัทมา กล่าวว่า ประมาณปี 2527 มีผู้ป่วยโรคมะเร็งดื่มน้ำคั้นสดจากหญ้าเทวดาเพื่อรักษาและบรรเทาอาการจาก
โรคมะเร็ง สามารถยืดชีวิตต่อไปได้ในระยะหนึ่ง ทำให้หญ้าเทวดาเป็นที่สนใจมาก นอกจากนั้นมีผู้ป่วยโรคมะเร็งรายหนึ่ง แพทย์บอกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 3
เดือน ขอให้นำไปพักรักษาที่บ้าน แต่ผู้ป่วยได้ดื่มน้ำหญ้าปักกิ่งคั้นสด 1 ปีต่อมายังไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ผลของผู้ป่วยรายนี้กระตุ้นให้มีการศึกษาวิจัย
คุณสมบัติของหญ้าเทวดา
ชาวจีนสมัยโบราณใช้หญ้าปักกิ่งเป็นยารักษาโรคมานับพันปีแล้ว รักษาสารพัดโรคครอบจักรวาล เช่น บำรุงพลังปราณ #ปรับสมดุลร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน คณะ
เภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เคยทำวิจัยคุณสมบัติหญ้าปักกิ่ง พบว่า ไม่มีพิษสะสมต่ออวัยวะอื่น และได้สรรพคุณทางเคมีเภสัชว่า สามารถทำลายเซลล์
มะเร็งโดยตรงระยะอ่อน-ปานกลาง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และลำไส้ใหญ่ ซึ่งสารที่แสดงฤทธิ์ คือกลุ่มกลัยโคสพิงโกไลบิตส์
#หญ้าปักกิ่ง กลีบดอกสีฟ้าหรือสีม่วงอ่อน #สมุนไพรรักษามะเร็ง มีสรรพคุณเสริมภูมิต้านทานมะเร็งได้
ด้านสรรพคุณทางยาจากข้อมูลยืนยันด้านวิทยาศาสตร์ พบว่า ในน้ำคั้นสดหญ้าปักกิ่งมีสารกลัยโคสฟิงโกไลปิดส์ (จี1บี) มีฤทธิ์ในการยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้
เซลล์มะเร็งรุนแรงเพิ่มขึ้น ต้านการกลายพันธุ์ของยีน และยังเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายด้วย
ในการนำหญ้าปักกิ่งมาใช้ เพื่อให้ได้สารกลัยโคสฟิงโกไลปิดส์ (จี1บี) ครบ ควรใช้หญ้าปักกิ่งที่มีอายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ในกรณีที่ปลูกโดยใช้การปักชำ แต่
หากใช้วิธีการปลูกด้วยเมล็ดต้องใช้ หญ้าปักกิ่งที่มีอายุตั้งแต่ 5 เดือนขึ้นไป ก่อนนำหญ้าปักกิ่งทั้งต้นและรากมาคั้นเอาน้ำ ต้องล้างทำความสะอาดให้ปราศจาก
สิ่งปนเปื้อนไม่ว่าดินและสารเคมี
ปริมาณในการดื่ม ดื่มครั้งละ 50 ml วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ก่อนอาหาร ในการรับประทาน ควรรับประทานเป็นรอบ คือ รับประทาน 7 วัน แล้วหยุด 4 วัน แล้ว
เริ่มรับประทานรอบใหม่
กรณีต้อง #การเสริมภูมิต้านทาน ไม่ได้เป็นมะเร็ง ไม่ควรบริโภคเกิน 6-8 สัปดาห์ กรณีลดผลข้างเคียงของการฉายรังสีหรือเคมีบำบัด ของผู้ป่วยมะเร็ง ควรรับ
ประทานเป็นช่วงๆ เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน กรณีป้องกันการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและกันการกลับเป็นซ้ำ ควรทานติดต่อกัน
ประมาณ 1 ปี พร้อมทั้งตรวจมะเร็งปีละ 2 ครั้ง
ไม่ควรรับประทานของแสลง ซึ่งมีผลให้ฤทธิ์ยาอ่อนลง เช่น ฟักแฟง แตงกวา ผักกาดขาว มะระ หน่อไม้ หัวไชเท้า และผักบุ้ง
ขอบคุณบทความจาก : http://www.thaiherbweb.com/product-type/1998/มะเร็ง-เนื้องอก.html