สารพัดประโยชน์ ในบร็อคโคลี่ ผักดี ๆ ที่หาทานได้ไม่ยาก บร็อคโคลี่ ชื่อภาษาอังกฤษ Broccoli
หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Brassica
oleracea var. italica จัดอยู่ในตระกูล Cruciferae ซึ่งมีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในทางตอนใต้ของยุโรป
แถว ๆ ประเทศอิตาลี และภายหลังได้มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทย
โดยแหล่งที่ปลูกบร็อคโคลี่มากที่สุดในบ้านเราก็คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ กาญจนบุรี
และกรุงเทพ
บร็อคโคลี่ เป็นผักที่รสชาติหวานกรอบ
สามารถรับประทานสดได้ หรือจะนำมาประกอบอาหาร ก็ได้หลากหลายเมนู
อีกทั้งบร็อคโคลี่ยังมีคุณค่าทางสารอาหารที่สูงด้วย เพราะอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร
เบต้าแคโรทีน วิตามิน C และสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย
รวมไปถึงสารเคมีทางธรรมชาติที่มีชื่อว่า ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane)
และสารอินดอล (indole)
ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านมะเร็ง
และการรับประทานบร็อคโคลี่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1/2 ถ้วย ก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างมาก
การเลือกซื้อบร็อคโคลี่นั้น จะต้องซื้อที่มีดอกแน่น
กระชับ มีสีเขียวเข้ม ก้านต้องแข็งแรงเหนียวนุ่ม
ไม่ควรเลือกซื้อบร็อคโคลี่ที่มีดอกสีเหลือง มีใบเหี่ยวเฉา
และมีก้านใบแข็งหรือหนาจนเกินไป
ลักษณะภายนอก
ลักษณะภายนอกของบรอกโคลี
จะมีใบกว้างสีเขียวเข้มออกเทา ริมขอบใบเป็นหยัก ทรงพุ่มใหญ่เก้งก้าง
ลำต้นใหญ่และอวบ ดอกอยู่รวมกันเป็นกลุ่มช่อหนาแน่นดูเป็นฝอย ๆ สีเขียวเข้ม
ดอกมีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 16 เซนติเมตร โดยทั่วไปนิยมกินตรงส่วนที่เป็นดอกและลำต้นจะนิยมรองลงมา
แต่ในด้านคุณค่าทางอาหาร โดยเฉพาะวิตามินซี กลับมีอยู่มากในส่วนของลำต้น
ด้งนั้นหลังจากเก็บบรอกโคลีไว้นานพบว่าดอกกลายเป็นสีเหลือง อย่าเพิ่งทิ้ง
นำส่วนของลำต้นมาทำอาหารรับประทานได้และดีกว่าด้วย บรอกโคลีมีรสหวาน กรอบ
จึงเป็นที่นิยมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ประโยชน์ และสรรพคุณ
บรอกโคลี มีรสชาติหวานกรอบ
สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย อีกทั้งมีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยบีตา-แคโรทีน (beta-carotene) เส้นใยอาหาร วิตามิน C และสารต่าง ๆ อีกหลายชนิด
บรอกโคลีประกอบไปด้วยสารเคมีทางธรรมชาติชื่อ sulforaphane และ
indoles ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็ง
เราสามารถรับประทานบรอกโคลีได้ทั้งแบบสด และนำมาประกอบ ในเมนูอาหารต่าง ๆ เช่น
น้ำสลัด พิซซา พาสต้า สเต็ก บร็อกโคลีผัดกุ้ง
ซุป ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะให้สารอาหาร จำพวกวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซีแคลเซียม โฟลิก ฟอสฟอรัส เหล็ก และไฟเบอร์ บรอกโคลี ยังมีสรรพคุณป้องกันโรคต่าง
ๆ ได้ดังนี้
2.
โรคหัวใจและความดันโลหิตสูง
3.
บำรุงสายตา
4.
ป้องกันการผิดปกติของเด็กแรกเกิด