โรคไต เป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย ที่สำคัญคือไม่มีอาการ กว่าจะรู้ตัวแล้วมาพบแพทย์อาการก็หนักมากแล้ว จากผลการสำรวจพบว่าคนไทย ประมาณ 17.5% ป่วยเป็นโรคไตชั่วโมงละเกือบ 5 คน ที่สำคัญคือการรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ทั้งกสมุนารฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การล้างไตทางช่องท้อง การผ่าตัดเปลี่ยนไต ต้องใช้งบประมาณเฉลี่ย 250,000 บาท ต่อคนต่อปี ยังไม่นับรวม ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าเสียโอกาสในการทำมาหากิน เรียกว่าล้างไต 1 ปี ซื้อรถได้ 1 คัน ถ้าล้างไต 3 ปี บางคนออาจสร้างบ้านได้ 1 หลัง เลยทีเดียว ด้วยนี้หากไม่ป่วยเป็นโรคไต ก็จะดีที่สุด
สาเหตุของโรคไตเรื้อรังมักมาจาก "โรคเบาหวาน" และ"โรคความดันโลหิตสูง" ดังนั้นคนที่มีโรคประจำตัวเป็น 2 โรคนี้ ควรดูแลระดับน้ำตาลในเลือดและความดันฯ ให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด ส่วนคนที่สุขภาพดีควรหมั่นดูแลน้ำหนักตัวและเส้นรอบเอวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเพราะ คนอ้วนจะมีความเสี่ยงเป็นโรคไตเพิ่มขึ้น 2 เท่า ส่วนคนที่มีรอบเอวมากกว่าครึ่งหนึ่งของส่วนสูงจะมีความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง อินซูลินขี้เกียจทำงานเสี่ยงเป็นเบาหวานได้
การกินอาหารก่อนนอนปริมาณมาก โดยเฉพาะอาหารประเภทไขมันและแป้ง ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานส่วนเกินมาเก็บไว้ในตู้กับข้าวที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย ซึ่งก็คือพุงของเรานั่นเอง ดังนั้นสาวๆ คนไหนที่อยากบอกลาพุงย้อยๆ ลองงดมื้อดึก หรือลองเลือกมื้อดึกที่ให้พลังงานต่ำดูนะคะ
ลดเค็มไว้ ไตไม่พัง
นอกจากนี้ยังควรระมัดระวังอาหารเค็มด้วยเพราะมีโซเดียมสูงทำให้ความดันโลหิตสูงได้ วิธีการลดเค็มสามารถทำได้โดยไม่ปรุงน้ำปลาหรือเครื่องปรุงเพิ่มระหว่างกินอาหารกรณีที่ซื้ออาหารนอกบ้านกินเป็นหลัก ก็ควรหลีกเลี่ยงการกินน้ำในอาหารเช่น น้ำแกง น้ำผัดผัก ฯลฯ ที่สำคัญหากมื้อไหนมีการกินอาหารเค็ม ควรกินคู่กับผัก หรืออาจดื่มน้ำผักปั่นแทนน้ำผลไม้ที่ดื่มเป็นประจำแทนก็ได้ เพราะผักเป็นแหล่งของโพแทสเซี่ยมที่สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ แล้วก็อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าตามมากๆ เพื่อกระตุ้นให้โซเดียมขับออกจากร่างกายในรูปของปัสสาวะ หรืออาจใช้การออกกำลังกาย ทำงานบ้านเพื่อช่วยขับสารโซเดียมออกทางเหงื่อแทนก็ไม่เลวค่ะ
นอกจากการกินอาหารตามธงโภชนาการแล้ว ในหนึ่งวันเราควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 1.5-2 ลิตร หรือ 6-8 แก้ว หลีกเลี่ยงสารเสพติดรวมถึงควันบุหรี่ และแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะควันบุหรี่เนื่องจากมีการศึกษาพบว่าร้อยละ 60 ของผู้ที่สุบบุหรี่มีแนวโน้มป่วยเป็นโรคไต สิ่งสำคัญอีกประการคือการออกกำลังกายระดับปานกลางอย่างน้อย 30-60 นาทีต่อวัน หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว ขึ่จักรยาน ว่ายน้ำ ฟุตบอล แบดมินตัน หรือเทนนิส เป็นต้น
หากเราสามารถรักษาพฤติกรรมที่เหมาะสมได้ ตามที่กล่าวมา เชื่อว่าทุกท่านจะมีน้ำหนักตัวและเส้นรอบเอวอยู่่ในเกณฑ์เหมาะสมและเป็นผู้ห่างไกลจากโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคไต ในอนาคตได้อย่างแน่นอน
กินป้องกันไตด้วยเทคนิค ลดพุง ลดอ้วน ลดโรค
- · มื้อเช้าอย่าให้ขาด เพราะถ้าขาดเราจะหิว แล้วทำให้กินเยอะในมื้อถึดไป
- · มื้อเช้ากินอย่างราชา กลางวันธรรมดา เย็นอย่างยาจก คือจัดสรรปริมาณอาหารให้กินในมื้อเช้ามากสุด รองลงมาคือกลางวัน และเย็นน้อยสุด หากกินกลับกันก็จะทำให้พุงพลุ้ยรอบเอวเกินในที่สุด
- · กินอาหารสมดุลตามธงโภชนาการ กองโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุข คือ
- · กินข้าวแป้ง เน้นแบบไม่ขัดสี เช่น ขนมปังโฮลสวีต ข้าวกล้อง 8-12 ทัพพี ต่อวัน
- · กินผัก 5 สี 4-6 ทัพพีต่อวัน
- · กินผลไม้ 3-5 จานรองถ้วยกาแฟต่อวัน
- · เลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่นเนื้อปลา ไข่ อกไก่ เนื้อหมูแดง 6-12 ช้อนกินข้าวต่อวัน
- · เสริมแคลเซียมด้วยนมไขมันต่ำ หรือนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม 1-2 แก้วต่อวัน
- · กินน้ำมัน น้ำตาล และเกลือแต่น้อยเท่าที่จำเป็น
Line ID>>
@ THAIHERBWEB
Line
code>>http://line.me/ti/p/%40thaiherbweb
เบอร์โทร
0973199029, 0805842717, 021387031,
0863515214
E-MAIL : thaiherbweb@gmail.com