วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

งาดำ สมุนไพรงาดำสรรพคุณ บำรุงกระดูก ชะลอชรา

งาดำ ภาษาอังกฤษ คือ Black Sesame Seeds มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sesamum indicum Linn. เป็นพืชที่มีแหล่งกำเนิดในแถบประเทศเอธิโอเปีย ถูกนำเข้ามาในอินเดีย จีน แอฟริกาเหนือ และเอเชียใต้เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน งาดำเป็นงาชนิดเดียวกับงาขาว แต่แตกต่างกันที่สีของเมล็ดเท่านั้นเอง

   ในประเทศไทยงาดำถูกนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านยารักษาโรค โภชนา และเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นขนม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นำไปเติมลงในอาหาร หรือแม้แต่นำไปสกัดเป็นน้ำมันงาดำ เนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร โดยในงาดำปริมาณ 100 กรัม มีแคลอรี 573 กิโลแคลอรี และมีประโยชน์ทางข้าวปลาอาหารการดังนี้
          - น้ำ 4.69 กรัม
          - โปรตีน 17.73 กรัม
          - คาร์โบไฮเดรต 23.45 กรัม
          - ไฟเบอร์ 11.8 กรัม
          - น้ำตาล 0.30 กรัม
          - แคลเซียม 975 มิลลิกรัม
          - ธาตุเหล็ก 14.55 มิลลิกรัม
          - แมกนีเซียม 351 มิลลิกรัม
          - ฟอสฟอรัส 629 มิลลิกรัม
          - โพแทสเซียม 468 มิลลิกรัม
          - โซเดียม 11 มิลลิกรัม
          - สังกะสี 7.75 มิลลิกรัม
          - ไทอะมีน 0.791 มิลลิกรัม
          - ไรโบฟลาวิน 0.247 มิลลิกรัม
          - ไนอะซิน 4.515 มิลลิกรัม
          - วิตามินบี 6 0.790 มิลลิกรัม
          - โฟเลต 97 ไมโครกรัม
          - วิตามินอี 0.25 มิลลิกรัม
          - ไขมันอิ่มตัว 6.957 กรัม
          - ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 18.759 กรัม
          - ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 21.773 กรัม



สรรพคุณของงาดำ งาดำมีสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างมากมาย และยังมีสรรพคุณช่วยชะลอความแก่ให้ดูอ่อนกว่าวัย รวมไปถึงช่วยในการบำรุงผิวให้สดใสอยู่เสมอ  ในงาดำยังมีโปรตีนบางชนิด ที่เป็นกรดอะมิโนจำเป็น ที่ร่างไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ช่วยในเรื่องการนอนหลับทำให้หลับพักผ่อนสบาย ช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันการเกิดโรคกระดูกเปราะกระดูกพรุน ป้องกันการเกิดโรคท้องผูก บรรเทาอาการริดสีดวงทวาร ต้านทานอาการข้ออักเสบ โรคข้อเสื่อม

ประโยชน์ของงาดำ
งาดำ มีความสำคัญอย่างมากต่อความสมบูรณ์ของร่าง
  • ช่วยชะลอความแก่ คงความอ่อนเยาว์
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื้น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  • ช่วยซ่อมแซมพร้อมด้วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนังของคุณ
  • ประโยชน์ของงาดำช่วยทะนุบำรุงรากผมให้แข็งแรง และช่วยให้ผมดกเงางาม
  • ช่วยป้องกันผมหงอก
  • ช่วยเพิ่มพลังงานและความแข็งแรงของร่างกาย
  • ช่วยในการเผาผลาญกับสลายไขมัน ลดความอ้วน
  • ช่วยลดการดูดซึมกับการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล
  • ช่วยปกป้องรักษาหลอดเลือดแข็งตัว
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ทำให้ระบบหัวใจแข็งแรงยิ่งขึ้น
  • มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยปกป้องรักษาการเกิดโรคมะเร็ง
  • ช่วยลดความเครียด
  • ช่วยบำรุงระบบประสาทพร้อมกับสมอง ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในระบบประสาท
  • งาดำมีธาตุเหล็กซึ่งช่วยบำรุงโลหิต
  • ช่วยลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด ป้องกันเกล็ดเลือดที่จะเกาะตัวกันเป็นลิ่ม
  • ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาว ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  • การรับประทานงาดำพร้อมกันถั่วจะทำให้ร่างได้รับโปรตีนอย่างครบถ้วน ซึ่งบางตัวเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้
  • ช่วยให้นอนหลับสบาย ร่างกระปรี้กระเปร่า
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัด
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา และตะคริว
  • ช่วยบำรุงกระดูกพร้อมกับป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
  • ช่วยป้องกันโรคท้องผูก
  • ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร
  • ช่วยต้านการอักเสบจากโรคข้อเสื่อม ยับยั้งการเสื่อมสลาย
  • น้ำมันงาสามารถนำมาใช้เป็นยานวดร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ เพื่อช่วยรักษาพยาบาลเส้นเอ็นอักเสบ
  • น้ำมันงาช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการปวดเข่า เคล็ดขัดยอก
  • ผู้กินมังสวิรัตินิยมใส่งาลงในอาหารถั่วเหลืองที่ปรุง เพื่อให้อาหารมีโปรตีนสมบูรณ์มากขึ้น
  • ผลงาดำในการนำมาแปรรูปเป็นงาดำแคปซูล



การรับประทานงาดำเพื่อให้มีผลต่อร่างกายและจิตใจมากที่สุดก็คือการทานงาดำเป็นอาหาร แทนที่จะทานงาดำที่เป็นสารสกัด โดยวิธีที่ดีที่สุดก็คือการบริโภคด้วยวิธีการเคี้ยวจะได้ค่ามากที่สุด แต่หากเรานำมาโรยใส่ข้าวหรือใส่เครื่องดื่ม ในบางครั้งเราอาจจะไม่ได้เคี้ยวด้วยซ้ำ จึงทำให้ร่างกายดูดซึมได้ไม่ดีเท่าที่ควรหรือดูดซึมไม่ได้เลย ซึ่งวิธีการทานก็ง่าย ๆ ด้วยการนำงาดำมาใส่กับขนมปังโฮลวีต กินทุกเช้าวันละ 10 ช้อนสำหรับผู้สูงอายุ แต่สำหรับคนวัยทำงานก็วันละ 3-4 ช้อนก็เพียงพอแล้ว หรือจะอยู่ในรูปของน้ำเต้าหู้งาดำก็ได้เช่นกัน แต่การรับประทานที่ดีนั้นควรบริโภคอย่างพอสมควรพร้อมบริโภคให้ครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายได้รับค่าอย่างสูงสุดและหลากหลาย นอกจากการกินแล้วสามารถนำเอาน้ำมันงามาใช้นวดทาบริเวณที่มีอาการปวดพร้อมด้วยป้องกันเส้นเอ็นที่บาดเจ็บ เพราะน้ำมันงามีคุณลักษณะที่ช่วยนำพาสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ที่ถูกนำมาผสมดูดซึมเข้าไปได้ดีขึ้น