สมุนไพร รากสามสิบ

สาวร้อยผัว สมุนไพรที่ใกล้ถูกลืม สรรพคุณ ช่วยในการกระชับช่องคลอด ลดตกขาว ปวดประจำเดือน แลปัญหาระบบภายในช่องคลอด แก้อาการวัยทอง บำรุงน้ำนม ประจำเดือนมาไม่ปกติชลอความแก่ แก้ช่องคลอดอักเสบ บำรุงผิวพรรณ

สมุนไพร กระชายดำแท้

กระชายดำเป็นสมุนไพรในกลุ่มร้อน มีรสขม เผ็ดร้อน สรรพคุณสำหรับผู้ชาย ช่วยบำรุงฮอร์โมนเพศชาย กระตุ้นประสาท ทำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ สรรพคุณสำหรับ ช่วยบำรุงเลือดสตรี แก้ตกขาว ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ สตรี

สมุนไพร ตรีผลา

ตรีผลา ลดน้ําหนัก ช่วยควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดน้ำหนักและมวลไขมันออกจากร่างกาย ช่วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้มีอายุยืนยาว

สมุนไพร กวาวเครือขาว

ประโยชน์ของกวาวเครือขาวช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง เปล่งปลั่งสดใสนุ่มนวลเรียบเนียน เป็นสมุนไพรอายุวัฒนะ มีส่วนช่วยในการชะลอวัย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และลดเลือนริ้วรอยบริเวณผิวหน้าและผิวกาย

วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

มังคุดรักษาโรคลำใส้






มังคุด เป็นไม้ยืนต้นมีความสูงประมาณ 10-25 เมตร มียางสีเหลือง ใบหนา ผลกลมเมื่อแก่และจะมีสีม่วง เนื้อข้างในฉ่ำน้ำ มีชื่อสามัญ ว่า Mangosteen มังคุดเป็นผลไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งผลไม้ เนื่องจากลักษณะภายนอกของผลนั้นจะมีกลีบเลี้ยงติดอยู่ที่ขั้วของผลคล้ายมงกุฎของพระราชินี เนื้อข้างในมีสีขาว รสชาติหวานและมีฤทธิ์เย็น สามารถแก้ร้อนในจากทุเรียนได้

เหตุที่มังคุดจัดเป็นสุมนไพรไทยนั้น เนื่องจากเนื้อและเปลือกมังคุดมีสรรพคุณเป็นยาสุมนไพร เช่น เมื่อกินมังคุดเข้าไปจะช่วยลดอาการร้อนในหลังจากการทานทุเรียนเข้าไปได้ อีกทั้งกากใยในเนื้อมังคุดที่ทานไปนั้นจะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นแก้อากาท้องผูกได้ นอกจากนี้เปลือกมังคุดที่มีรสฝาดนั้นมีสารเคมีต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย อาทิ Chrysanthemin, Xanthone, Garcinone A, Garcinone B, Gartanin, Mangostin, Kolanone ช่วยรักษาอาการต่างเหล่านี้ได้

- อาการท้องเสีย และโรคลำไส้ โดยการใช้เปลือกมังคุดครึ่งผลต้อมกับน้ำ ใช้รับประทาน 

- รักษาอาการท้องเดินท้องร่วง โดยใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้อมกับน้ำปูนใส หรือผนกับน้ำ รับประทานทุก 1 ช้อนโต๊ะ ทุกๆ 4  ชม.

- ยาแก้บิด ใช้เปลือกแห้งครึ่งผล ย่างไฟให้เกรียม ฝนกับน้ำปูนใส ละลายกับน้ำสุก รับประทานทุกๆ 2 ชม.

- รักษาแผลพุพอง เน่าเปื่อย หรือแผลน้ำกัดเท้า โดยใช้ ผลสดหรือแห้งก็ได้ ผลกับน้ำปูนใส ใช้ทาแผลวันละ 2-4 ครั้ง ข้อควรปฏิบัติในการใช้เปลือกมังคุดทาแผลคือ ต้องล้างทำความสะอาดบริเวณที่เป็นแผลให้สะอาดก่อนแล้วจึงค่อยนำยาจากเปลือกมังคุดมาทา จะสามารถทำให้ทุเลาลงได้

ฟักทองต้านมะเร็ง






ฟักทอง เป็นพืชที่มีฤทธิ์อุ่น มีรสหวาน สามารถนำมาทำได้ทั้งอาหาร เช่น แกงเลียง แกงคั่ว ผัดฟักทอง ส่วนขนม ก็ไม่น้อยหน้า สังขยาฟักทอง แกงบวชฟักทอง ประเภทใช้ซดน้ำเล่นๆ ก็ซุปฟักทองไปเลย 

การรับประทานเนื้อฟักทองสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการต้านอนุมูลอิสระอย่างมาก อันมีผลกับผิวพรรณคือ ช่วยให้ผิวพรรณยังคงเต่งตึง เซลล์ไม่เสื่อมโทรมไปตามวัย ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เป็นเกราะป้องกันที่ดีมากสำหรับการถูกทำลายด้วยมลภาวะต่างๆ
มาดูประโยชน์อื่นๆ ของฟักทองกัน

ฟักทองมีฤทธิ์อุ่น รสหวาน มีเบต้าแคโรทีนสูง จึงช่วยป้องกันมะเร็งได้โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในผู้สูงอายุ ป้องกันโรคผิวหนังบรรเทาอาการปวดเมื่อยหัวเข่าและเอว ป้องกันโรคอัมพาต

ฟักทองสามารถป้องกันโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ช่วยบำรุงตับ ไต และสายตา

ฟักทองเป็นผักที่มีเส้นใยสูงให้พลังงานต่ำ ไขมันน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก คาร์โบไฮเดรทในฟักทองช่วยบำบัดโรคแผลในกระเพาะและลำไส้ส่วนบน

ฟักทองช่วยกำจัดเสมหะ ช่วยให้ชุ่มปอด บรรเทาอาการหอบหืดที่เกิดจากโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังในผู้สูงอายุ อีกทั้งยังช่วยบำรุงกำลัง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปอดและม้ามอ่อนแอ

เมล็ดฟักทองมีสรรพคุณต้านการรักษาและลดโอกาสการเกิดโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า เมล็ดฟักทอง มีคุณสมบัติที่ดีในการช่วยการทำงานของระบบขับถ่าย นอกจากนั้นยังสามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวตืดอีกด้วย โดยการใช้เมล็ดแห้งบดให้เป็นผง แล้วผสมกับน้ำตาลและนมจืด รับประทาน จากนั้นอีก 2 ชั่วโมง ให้ดื่มน้ำมันละหุ่งตามเพื่อกระตุ้นให้ถ่ายได้ดียิ่งขึ้น

ส่วนน้ำมันสกัดจากเมล็ดฟักทองซึ่งมีรสหวาน ใช้กินบำรุงประสาทได้ นับได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรที่หาง่ายอีกชนิดหนึ่ง



ส้มแขก สมุนไพรยับยั้งการสะสมของไขมัน





การสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกายนั้นเป็นอุปสรรคต่อการลดน้ำหนักมาก การที่จะหาสมุนไพรลดไขมันนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำด้วยความรอบคอบ ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่สกัดจะสมุนไพรไทยเพื่อใช้เป็นสมุนไพรลดน้ำหนัก สมุนไพรลดหน้าท้องนั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด สมุนไพรที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ ส้มแขก

ส้มแขกเป็นไม้ยืนต้นทรงพุ่มกว้างสูกประมาณ 5-10 เมตร มีผลสีเขียวเมื่อผลแก่เต็มที่จะมีสีเหลืองเข้ม มีรสเปรี้ยว พบมากทางภาคใต้ ส้มแขกมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ลละท้องถิ่น เช่น จังหวัดตรังเรียก ชะมวงช้าง ส้มควาย จังหวัดปัตตานีเรียก ส้มพะงุน เป็นต้น 

ส้มแขกมีสรรพคุณช่วยยับยั้งและสกัดกั้นการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกาย เนื่องจากในส้มแขกนั้นมีสารที่ชื่อว่า Hydroxycitric Acid หรือเรียกสั้นๆว่า “HCA” ซึ่งสารตัวนี้จะช่วยยับยั้งเอนไซม์ในกระบวนการสร้างไขมันหลังจากการรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่มากจนเกินไป  นอกจากสาร Hydroxycitric Acid แล้ว ส้มแขกยังมีกรดอินทรีย์ ชนิดต่างๆรวมอยู่ด้วย อาทิเช่น เป็น กรดซิตริก (Citric Acid), กรดโดคีคาโนอิค (Dodecanoic Acid), กรดออคตาดีคาโนอิค (Octadecanoic acid) และกรดเพนตาดีคาโนอิค (Pentadecanoic acid) ช่วยให้ทานอาหารได้น้อยลง จึงทำให้หน้าท้องยุบได้ ในส่วนของตำรับยาพื้นบ้านนั้น ส้มแขก ยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนส่วนใหญ่มักทานส้มแขกในรูปของแค๊ปซูลสกัด ซึ่งทานได้ง่ายกว่าและพกพาสะดวก ข้อควรระวังในการทานส้อมแขกคือ ควรทานในประมาณที่พอเหมาะ ถ้าเป็นในรูปค๊ปซูลสกัดไม่ควรทานเกินวันละ 300–600 มก.เท่านั้น หรือรับประทานตามที่ฉลากระบุเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงกับเราได้

ขมิ้นชัน ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมัน






ขมิ้น มีชื่อเรียกที่แตกต่างออกตามแต่ท้องถิ่นนั้นๆจะเรียก เช่น คนเชียงใหม่เรียกว่า  ขมิ้นแกง ขมิ้นหยอก ขมิ้นหัว ส่วนคนภาคใต้ก็จะเรียกว่า ขี้มิ้น หมิ้น นอกจากขมิ้นจะเป็นเครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมแล้วแล้วยังมีสรรพตามตำรับสมุนไพรอีกมาก

ลักษณะของขมิ้นนั้นคือ เป็นไม้ล้มลุก สูง 25-100 ซม. มีเหง้าหรือหัวอยู่ใต้ดินสามารถแตกกอได้ มีสีส้ม กลิ่นหอม ส่วนที่นำมาใช้ประโยนช์ คือ เหง้าแก่สด และแห้ง มีสรรพคุณเป็นได้ทั้งภายนอกและภายใน สามารถ แก้ท้องอืด แก้ท้องร่วง แก้โรคกระเพาะ ทาแก้ผื่นคัน โรคผิวหนัง พุพอง เป็นยารักษาชันนะตุและหนังศีรษะเป็นเม็ดผื่นคัน นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ที่รักสวยรักงานยังนิยมนำขมิ้นมาพอกตัวเพื่อให้ผิวดูเนียนนุ่มผุดผ่อง และที่สำคัญไปกว่านั้นสำหรับผู้ที่ต้องการจะลดความอ้วน สะลายไขมัน โดยวิธีทางธรรมมาชาติ ขมิ้นเป็นสมุนไพรลดความอ้วน สมุนไพรลดหน้าท้องได้เป็นอย่างดี ท่านสามารถรับประทานขมิ้นเพื่อที่จะให้สารเคอร์คูมินที่อยู่ในขมิ้นนั้นช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมัน ด้วยที่ขมิ้นมีความเผ็ดร้อน จำให้สามารถเผาผลาญไขมันได้อีกด้วย หากท่านรับประทานขมิ้นชันในช่วงเวลา 5.00 – 7.00 น. ขมิ้นจะช่วยแก้ปัญหาลำไส้ เพราะขมิ้นจะไปปรับการทำงานของระบบขับถ่ายให้สมดุล ในปัจจุบันขมิ้นที่มีขายอยู่ในตลาดนั้นมีทั้งขมิ้นสด ขมิ้นผง หรือแม้กระทั้งในรูปแบบแค๊ปซูล ดังนั้นผู้บริโภคควรศึกษข้อมูลและอ่านฉลากให้ถี่ถ้วนก่อนนำมาใช้งาน รวมไปถึงข้อควรระวังต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในตัวผู้ใช้เอง

เครดิตภาพ : pantip.com

กานพลู สมุนไพรแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องขึ้น






  “กินเพื่อยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกิน”   ข้อความสั้นๆ ดังกล่าว อ่านจบแล้ว ฟังดูน่าคิด น่าทำตาม แต่เชื่อว่าไม่สามารถใช้ได้ผลกับใครหลายๆ คนได้  ใครจะอดใจได้เหมือนมีของกินหรืออาหารอร่อยๆอยู่ตรงหน้านะ นั้นคือเหตุผลที่จะทำให้เกิดอาการ ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องขึ้น  หากเกิดอาการดังกล่าวแล้ว จะก่อเกิดปัญหากับสภาพจิตใจและสภาพร่างกายค่อนข้างมาก อาจจะส่งต่อประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้ แต่โรคทุกโรคมีวิธีการรักษา ท้องอืด ท้องเฟ้อและท้องขึ้นก็เช่นเดียว บทความนี่จะแนะนำสมุนไพร กานพลู ที่สามารถช่วยแก้อาการเหล่านี้ได้ มาดูกันเลยว่ามีลักษณะอย่างไงบ้าง

        กานพลู  ต้นจะสูงประมาณ 9-12 เมตร  บางต้นอาจจะสูงถึง 20 เมตรเลย หากสังเกตจากยอดจะมีลักษณะเหมือนกรวยคว่ำ กิ่งจะมีลักษณะแตกอ่อน  ลำต้นจะตั้งตรง เปียกของลำต้นจะเรียบ ใบจะเป็นใบเดี่ยวมีลักษณะเหมือนหอกจะมีขนาดความกว้างประมาณ 8-11 เซนติเมตร ความยาว 32-37 เซนติเมตร ช่องดอกจะออกตรงปลายจะยาวประมาณ 5 เซนติเมตร กานพลูจะอยู่ตามหมู่เกาะต่างๆ พบมากที่เกาะโมลุกกะ สามารถนำไปปลูกที่เขตร้อนได้ ประเทศไทยมีบ้างแต่ไม่เป็นที่นิยมปลูก

  - สรรพคุณ สามารถใช้ได้ทั้ง เปลือกของต้น ใบ ดอกตูม ผล และใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยได้ สรรพคุณแต่ละส่วนจะแตกต่างกันออกไปดังนี้
    -  เปลือกต้น สามารถแก้ปวดท้องและสามารถควบคุมธาตุได้
          - ผล  ใช้เป็นเครื่องเทศสำหรับประกอบอาหารต่างๆเพื่อทำให้กลิ่นหอม
       - ดอกตูม สกัดเอาน้ำมันออกมาจะสามารถใช้เป็นยา ช่วยขับลม แก้ปัญหาท้องอืด ท้องเพ้อ ปวดท้องได้
 

กระเพรา สมุนไพรแก้อาเจียน






  “ป้าๆกระเพราหมูสับ ไข่ดาวหนึ่ง” เชื่อว่าในหนึ่งวันน่าจะมีคนสั่งข้าวกระเพรามากกว่า 1000 จาน  เหตุผลเพราะอะไรก็ไม่แน่ใจ อาจเพราะว่า ง่าย  คนกินกันเยอะ คนไม่รู้จะกินอะไร กินตามเพื่อน ก็ได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า กระเพราเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก  กระเพรา เป็นสมุนไพรที่มีความมหัศจรรย์มากซึ่งสามารถแก้อาการ แก้โรคได้หลายโรค ซึ่งมากกว่า 5 โรคเลยทีเดียว มาทำความรู้จักกับ กระเพรา กันได้เลย

  กระเพรามีหลายสายพันธุ์ อาทิเช่น กระเพราขาว กระเพราแดง เป็นต้น จะเป็นไม้พุ่มมีความสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร ยอดอ่อนจะมีลักษณะเป็นขนสีขาว ใบจะเป็นใบเลี้ยงเดี่ยวลักษณะจะเป็นรูปวงรี กว้างประมาณ 1-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2 -2.5 เซนติเมตร ต้นถึงจะไม่สูงเหมือนต้นไม้ยืนต้น แต่จะมีความหนาและเหนียว

  ส่วนที่นำมาใช้เป็นสมุนของกระเพรา คือ ใบและยอด มีสรรพคุณดังต่อไปนี้  แก้อาการที่เกินจากการคลื่นไส้ อาเจียนได้ ใช้แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้องและแน่จุกเสียดได้ สามารถขับพยาธิที่อยู่ในร่างกายของคุณได้ ลดไข้ได้ สามารถเป็นยาอายุวัฒนะ  สกัดใช้เป็นยารักษาหูด กลากเกลื้อน เชื้อราได้ นอกจากจะสามารถใช้รับประทานเป็นยาได้แล้ว ยังมีประโยชน์อย่างอื่นๆ อีก เช่น ใช้ไล่แมลงวันทอง ไล่ยุ่งและฆ่ายุ่ง

  วิธีการนำกระเพราไปใช้ วิธีการที่ง่ายที่สุด  คือ นำไปประกอบอาหาร  แต่วิธีการนี้ไม่สามารถใช้ได้กับทุกโรคที่กล่าวมาได้ ยังมีวิธีอื่นๆอีก เช่น นำไปใบสดๆที่เด็ดจากต้นไปทาบริเวณท้องอ่อนเพื่อลดอาการท้องอืด ท้องฟ้อ