ฟักทอง เป็นพืชที่มีฤทธิ์อุ่น มีรสหวาน สามารถนำมาทำได้ทั้งอาหาร เช่น แกงเลียง แกงคั่ว ผัดฟักทอง ส่วนขนม ก็ไม่น้อยหน้า สังขยาฟักทอง แกงบวชฟักทอง ประเภทใช้ซดน้ำเล่นๆ ก็ซุปฟักทองไปเลย
การรับประทานเนื้อฟักทองสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการต้านอนุมูลอิสระอย่างมาก อันมีผลกับผิวพรรณคือ ช่วยให้ผิวพรรณยังคงเต่งตึง เซลล์ไม่เสื่อมโทรมไปตามวัย ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เป็นเกราะป้องกันที่ดีมากสำหรับการถูกทำลายด้วยมลภาวะต่างๆ
มาดูประโยชน์อื่นๆ ของฟักทองกัน
• ฟักทองมีฤทธิ์อุ่น รสหวาน มีเบต้าแคโรทีนสูง จึงช่วยป้องกันมะเร็งได้โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในผู้สูงอายุ ป้องกันโรคผิวหนังบรรเทาอาการปวดเมื่อยหัวเข่าและเอว ป้องกันโรคอัมพาต
• ฟักทองสามารถป้องกันโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ช่วยบำรุงตับ ไต และสายตา
• ฟักทองเป็นผักที่มีเส้นใยสูงให้พลังงานต่ำ ไขมันน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก คาร์โบไฮเดรทในฟักทองช่วยบำบัดโรคแผลในกระเพาะและลำไส้ส่วนบน
• ฟักทองช่วยกำจัดเสมหะ ช่วยให้ชุ่มปอด บรรเทาอาการหอบหืดที่เกิดจากโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังในผู้สูงอายุ อีกทั้งยังช่วยบำรุงกำลัง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปอดและม้ามอ่อนแอ
• เมล็ดฟักทองมีสรรพคุณต้านการรักษาและลดโอกาสการเกิดโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
• นอกจากนี้ยังพบอีกว่า เมล็ดฟักทอง มีคุณสมบัติที่ดีในการช่วยการทำงานของระบบขับถ่าย นอกจากนั้นยังสามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวตืดอีกด้วย โดยการใช้เมล็ดแห้งบดให้เป็นผง แล้วผสมกับน้ำตาลและนมจืด รับประทาน จากนั้นอีก 2 ชั่วโมง ให้ดื่มน้ำมันละหุ่งตามเพื่อกระตุ้นให้ถ่ายได้ดียิ่งขึ้น
• ส่วนน้ำมันสกัดจากเมล็ดฟักทองซึ่งมีรสหวาน ใช้กินบำรุงประสาทได้ นับได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรที่หาง่ายอีกชนิดหนึ่ง