พืชสมุนไพรไทย ที่มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้น มีความสูง 2-6 เมตร ลักษณะผลเป็นรูปไข่วงรี มีตาอยู่รอบผล ผิวมัน หากใกล้สุกจะมีสีขาวนวล ค่อนข้างมีกลิ่นฉุน โดยส่วนใหญ่จะเป็นพืชที่ขึ้นตามป่า แต่คนโบราณมักนิยมนำมาปลูกไว้ตามบ้านด้วยเช่นกัน และจะเจริญเติบโตได้ในที่พื้นที่มีความชุ่มชี้นพอสมควร
เนื่องจาก “ใบยอ” เป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยแคลเซียม เบเต้าเคโรทีน วิตามินบี 1 และบี 2 และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงมีสรรพคุณในการรักษาอาการปวดตามข้อ ปวดกล้ามเนื้อ รักษาแผลพุพอง บรรเทาอาการปวดศรีษะ และแก้พิษไข้ และต่อต้านมะเร็งร้ายด้วยสารโพลีแซคคาไรด์ที่ได้มาจากน้ำตาลในผลของลูกยอ และสารโปรโซโรนีน ก็จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพ ให้เซลล์ในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ทั้งยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้อีกทาง
น้ำคั้นจากใบยอสด ก็ยังสามารถนำทำรับประทานได้เช่นกัน โดยสรรพคุณที่ได้จากพืชสมุนไพรชนิดนี้นั้น จะสามารถรักษาโรคความดันโลหิตสูง บรรเทาอาการปวดท้อง รักษาแผลในกระเพาะอาหาร บำรุงธาตุ ระบายท้อง แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้อาการปวดตามข้อ และอาการปวดจากโรคเก๊าต์ได้ ทั้งยังป้องกันและรักษาโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ รักษาอาการใส้เลื่อน และอาการเลือดออกจากอาการกระดูกแตกร้าวได้อีกด้วย
ยังมี “ลูกยอดิบ” ที่ก็ยังเป็นประโยชน์ได้อีกทาง นั่นคือ จะเป็นตัวช่วยขับลม แก้อาการคลื่นใส้ อาเจียน และขับประจำเดือน ให้อยู่ในภาวะปกติ ในส่วนของ “ลูกยอสุก” จะใช้รักษาอาการเจ็บคอ และโรคภายในช่องปาก ไปกระตุ้นการอยากอาหาร ป้องการโรคความดันโลหิตสูง และช่วยขับพยาธิได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่า “ยอ” นั้น เป็นพืชสมุนไพรไทย ที่นำมาทำเป็นยารักษาโรคได้สารพัดประโยชน์จริง ๆ
ข้อควรระวัง : สตรีที่ตั้งครรภ์อ่อน ๆ ห้ามรับประทานเด็ดขาด เพราะอาจเกิดภาวะแท้งบุตรได้