ขึ้นชื่อว่า “สมุนไพรไทย” แล้ว ก็เป็นอันให้ต้องนึกถึงภูมิปัญญาไทยที่บรรพบุรุษได้สั่งสม สั่งสอน รวมถึงสะสม มาให้พวกเราได้ใช้เยียวยาร่างกาย ให้เราได้บรรเทา ทุเลา หายป่วยกันไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ บ้างก็มีรสชาติอร่อยถูกปาก บ้างก็ขมซะจนเข็ดขยาดไปตาม ๆ กัน แต่จะอย่างไรก็ตามคำโบราณที่ท่านได้กล่าวไว้ว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” ก็ยังคงได้ใช้กับสมุนไพรไทยของเราไปจนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน ได้กล่าวขานกันไปอีกนานอย่างแน่นอน
พืชสมุนไพร ที่ใกล้ตัวเรานั้น มีอยู่มากมายนัก หลาย ๆ บ้านก็ปลูกไว้กิน ไว้ใช้กันอย่างมากมาย แถมไม่พอในเวลาที่ออกดอก ออกผลนั้น ก็ยังมีเหลือเผื่อแผ่ให้ผู้ที่ต้องการ นำไปปรุงเป็นยา เป็นอาหารมื้ออร่อย แถมมาด้วยสุขภาพดีได้อีกต่างหาก แบบนี้แล้วจะไม่ให้เห็นคุณค่ากันก็ดูกระไรอยู่เชียว
สมุนไพรไทย สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้ง เปลือก ราก หัว เหง้า แก่น เนื้อไม้ เปลือก ลำต้น ดอก ใบ ผล เมล็ด แทบจะเรียกได้ว่า 1 ต้นของพืชสมุนไพร สามารถนำมารักษาโรคใดโรคหนึ่งหรือมากกว่าได้เลยทีเดียว เพียงแต่ผู้ใช้ต้องศึกษาให้ละเอียดก่อนนำพืชสมุนไพรมาใช้ปรุงยา หรืออาหาร เพราะสรรพคุณที่ดูเหมาะสมแก่การรักษาโรคใดโรคหนึ่งนั้น ก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีร่างกายอยู่ในภาวะบางอย่างได้ เช่นผู้ที่ตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สมุนไพรที่ฤทธิ์ในด้านความร้อน เพราะอาจจะกระทบต่อเด็กในครรภ์ได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ดีการบำบัด การรักษาด้วยวิถีทางธรรมชาติ ดูจะเป็นที่นิยมและยอมรับกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น และพืชสมุนไพรไทยนั้นจะเป็นตัวแปรสำคัญยิ่ง ที่เราควรศึกษา และทำความเข้าใจในธรรมชาติของการนำไปบำรุงรักษาและป้องกันกันอย่างถูกวิธี เรามั่นใจว่าคุณจะมีสุขภาพแข็งแรงได้ด้วยสมุนไพรไทย