งา นั้น คนโบร่ำโบราณ ใช้มักจะนำมาทำเป็นอาหารและยา คุณสมบัติที่ใช้เป็นยาคือ ใช้เป็นยารักษาอาการท้องผูก โดยงามี 2 ชนิด คือ งาขาว และ งาดำ งามีกลิ่นหอมเฉพาะตัว งาดำจะมีรสชาติออกขมเล็กน้อย ใช้ทำยาและอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่สูงกว่างาขาว
งาดำ และงาขาว มีฤทธิ์เป็นกลาง มีรสหวาน ส่วนน้ำมันงามีฤทธิ์เย็น แต่มีรสหวาน แก้ท้องผูก ลดการอักเสบของทางเดินอาหาร ในทางการแพทย์ถือว่า งา เป็นยาบำรุงกำลัง เนื่องจากน้ำมันงามีกรดไขมันอิ่มตัวสูง จึงเป็นสมุนไพรลดไขมันที่ช่วยรักษาระดับคลอเรสเตอรอลในร่างกาย ช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดเกิดการแข็งตัวและเกิดเส้นเลือดอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด ซ้ำยังช่วยรักษา อาการเคล็ดขัดยอกได้ดีอีกด้วย
ในน้ำมันงา มีกรดไลโนเลอิก ซึ่งทำหน้าที่ช่วยในการขยายหลอดเลือด ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันเกล็ดเลือดแข็งตัวเพราะหากเกล็ดเลือดแข็งตัวจนเป็นลิ่มจะทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุนำไปสู่โรค หัวใจขาดเลือด เส้นเลือดอุดตันในสมอง โรคเบาหวาน และอาจป่วยเป็นอัมพฤษ์ อัมพาตได้ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า งา เป็นน้ำมันสมุนไพรลดไขมัน อีกหนึ่งตัวที่น่าจับตามอง
ดังนั้น งา จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวข้องกับคลอเรสเตอรอลสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน แต่ก็มีข้อควรระวังในการนำงาไปทานสำหรับผู้ที่มีอาการร้อนใน หรือ มีอาการท้องร่วงเป็นประจำ ไม่ควรทานงาบ่อยครั้งนัก แต่อาจเว้นระยะทานได้